แพทย์ มช.เผย สามารถผ่าตัดเด็กอวัยวะเกินได้สำเร็จ
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 57 ที่ห้องประชุมชั้น 15 อาคารเฉลิมพระเกียรติ คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รศ.นพ.วัฒนา นาวาเจริญ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดเผยว่า แพทย์ มช.ประสบความสำเร็จในการผ่าตัดแฝดวัย 6 เดือน ตัวติดกันแห่งรัฐฉานได้สำเร็จ โดยมี ผศ.นพ.เจษฏา สิงห์เวชสกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญหน่วยกุมารศัลยศาสตร์ ภาควิชาศัลยศาสตร์ และรอง ผอ.รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ซึ่งเป็นอาจารย์แพทย์ผู้ให้การผ่าตัดเด็กแฝด พร้อมทีมแพทย์เป็นผู้ดำเนินการ
ผศ.นพ.เจษฏา กล่าวว่า การผ่าตัดเด็กแฝดตัวติดกันนั้น ทางแพทย์ได้รับการติดต่อจาก นางคำหน่วย อายุ 20 ปีผู้เป็นมารดา ได้คลอดลูกเป็นเด็กผู้หญิงชื่อว่าแสงดาว ซึ่งเกิดเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2556 ที่รัฐฉาน โดยมีหมอตำแยทำคลอดให้โดยธรรมชาติปรากฏว่าในขณะที่เด็กหญิงแสงดาวเกิดมา ก็พบความผิดปกติในร่างกายบริเวณหน้าอกพบก้อนคล้ายกับมีอวัยวะเพศหญิง แขน ขา อย่างละ 2 ข้างติดอยู่ ไม่พบลำตัวและศีรษะในส่วนอวัยวะที่เกินมา แล้วก้อนอวัยวะที่เกินก็โตขึ้นตามตัวและมีขนาดเล็กกว่าอวัยวะปกติเล็กน้อย พัฒนาการของเด็กอยู่ในอาการปกติ ก้น แขน ขาและอวัยวะเพศที่เกินมาไม่สามารถขยับได้เอง แต่สามารถแกว่งตามการเคลื่อนไหวได้บริเวณอวัยวะที่เกินมีการขับปัสสาวะออกมาได้เองซึ่งไม่สัมพันธ์กับการขับปัสสาวะปกติของผู้ป่วย
รอง ผอ.รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ กล่าวต่อว่า เมื่อเด็กหญิงแสงดาวถูกส่งตัวมารับการรักษาใน รพ.มหาราชฯ เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 57 ขณะอายุได้ 6 เดือน ทีมแพทย์ทุกสาขาจึงให้การช่วยเหลือ ทั้งด้านกุมารศัลยศาสตร์ ด้านศัลยแพทย์ตกแต่ง ศัลยแพทย์ทางเดินปัสสาวะ ศัลยแพทย์ทั่วไป กุมารแพทย์หัวใจและทีมทางการพยาบาล โดยได้รับการเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์เพื่อประเมินอวัยวะภายในทั้งหมด เพื่อเตรียมการผ่าตัดแยกร่างเด็กแฝด หลังจากนั้นก็เข้ารับการผ่าตัดในขณะนี้เด็กอายุได้1 ปีเศษแล้ว สุขภาพกลับมาสมบูรณ์แข็งแรง แผลผ่าตัดสมานตัวได้เป็นอย่างดีหากเด็กไม่ได้รับการผ่าตัด เด็กจะมีปัญหาตามมาด้วยน้ำหนักร่างกายของแฝดที่ติดอยู่ทำให้การเคลื่อนไหวยาก นอกจากนี้อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันในอนาคต หลังจากที่ได้รับการผ่าตัดสำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วขณะนี้ก็ได้ให้พักดูอาการในโรงพยาบาล ก่อนให้กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านในรัฐฉานประเทศพม่า แต่ทางผู้ป่วยยังมีโรคหัวใจที่ต้องได้รับการผ่าตัดแก้ไขเรื่องผนังกั้นห้องหัวใจ ซึ่งทางทีมผู้รักษาคาดว่าเดือนมกราคม 2558 จะดำเนินการผ่าตัดหัวใจต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูล เดลินิวส์