• Home »
  • ข่าวทั่วไป »
  • เตือนภัยพ่อแม่ ระมัดระวัง พาลูกเที่ยวงาน สุดท้ายกลายเป็นศพ

เตือนภัยพ่อแม่ ระมัดระวัง พาลูกเที่ยวงาน สุดท้ายกลายเป็นศพ

พบแล้วน้องการ์ตูน หลังจากหายไป

พบแล้วน้องการ์ตูน หลังจากหายไป

 

         จากกรณีน้องการ์ตูน อายุ 6 ขวบ ถูกคนร้ายลักพาตัวไป ขณะไปเที่ยวกับพ่อดูคอนเสิร์ตย่านซอยลาซาล เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 6 ธ.ค.56ที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ สน.บางนา ได้ลงพื้นที่สืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย จนกระทั่งพบภาพวงจรปิดจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแบริ่ง จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อยืดสีดำ มีสกรีนที่บริเวณหน้าอกเสื้อ นุ่งกางเกงขาสามส่วน สูงประมาณ170-175 ซม. ศีรษะเถิก จูงน้องการ์ตูนเดินอยู่บนสถานีรถไฟฟ้า ก่อนที่กลางดึกคืนวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา จะพบชิ้นส่วนกะโหลกมนุษย์กับกางเกงขาสั้นที่น้องการ์ตูนนุ่งในวันเกิดเหตุตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

          ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.56 พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผกก.สน.บางนา พ.ต.ท.ภาสกร รัตนปนัดดา รองผกก.สส. พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ สว.สส. พ.ต.ท.ธีรยุทธ ใหม่แปลง สส.สส. ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ วงศ์สิงค์ รองสว.สส. พร้อมด้วยสุนัขตำรวจ 2 นาย เดินทางเข้าตรวจค้นภายใน ภายในพื้นที่รกร้างข้างซอยสุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล) ถนนสุขุมวิท แขวงและเขตบางนา อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบหาชิ้นส่วนมนุษย์เพิ่มเติมอีกครั้ง

          จากการตรวจสอบโดยรอบพื้นที่อย่างละเอียด เจ้าหน้าที่พบเสื้อยืดสีเขียวสภาพเปื้อนคราบเลือด ถูกม้วนเป็นปม ตกอยู่ริมกำแพงห่างจากจุดที่พบกะโหลกศีรษะเล็กน้อย เมื่อคลี่ปมออกมาดูก็พบว่า เป็นลายภาพละคร Òป่านางเสือÓ ที่น้องการ์ตูนใส่ในวันเกิดเหตุ และห่างออกไปประมาณ 5 เมตร เจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนกระดูกยังมีคราบเลือดและกลิ่นคาวคละคลุ้ง จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวชจาก รพ.ตำรวจ เดินทางมาตรวจเก็บรายละเอียดที่พบทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนมอบให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชต่อไป

          พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ กล่าวว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนเตรียมขออนุมัติหมายจับบุคคลต้องสงสัยซึ่งเป็นชายตามภาพวงจรปิด ในข้อหาพรากผู้เยาว์ ไว้ก่อน ส่วนข้อหาอื่นนั้น ต้องรอผลการชันสูตรรวมทั้งผลการตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับพ่อแม่ของน้องการ์ตูนว่า กะโหลก และชิ้นส่วนกระดูกที่พบนั้นจะเป็นของน้องการ์ตูนหรือไม่ ส่วนการติดตามจับกุมคนร้ายนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุมหลังจากได้ภาพวงจรปิดแล้ว เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนไทย และไม่น่าจะทำเป็นขบวนการแต่อย่างใด ส่วนผู้ต้องสงสัยชาวต่างด้าวที่นำตัวไปสอบสวนเมื่อคืนที่ผ่านมานั้นไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด แค่มานอนพักอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุเท่านั้น อีกทั้งตรวจเปรียบเทียบกับกล้องวงจรปิดแล้วก็ไม่ตรงกันแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามหามีใครพบเบาะแสของคนร้ายเพิ่มเติมก็สามารถแจ้งมาที่ สน.บางนา ได้ตลอด 24 ชม.

          ด้านนางสุไพลี คงแสงบุตร หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเพื่อการฟื้นฟู มูลนิธิเพื่อการฟื้นฟูพัฒนาเด็กและครอบครัว (ฟอร์เด็ก 6) ที่คอยดูแลน้องการ์ตูนอยู่ กล่าวว่า น้องการ์ตูนอยู่กับทางมูลนิธิมาเป็นปีที่ 3 แล้ว ปกติจะเป็นเด็กค่อนข้างเงียบเรียบร้อย ไม่ค่อยกล้าแสดงออก ซึ่งทางมูลนิธิเชื่อว่า น้องการ์ตูนน่าจะถูกคนร้ายข่มขู่ หรือหลอกว่าจะพาไปซื้อขนม หรืออาจจะหลอกว่าจะพาหาแม่ เพราะแม่ไม่ได้มาดูคอนเสิร์ดด้วย ซึ่งหลังจากน้องการ์ตูนหายไป ทางมูลนิธิก็ช่วยออกตามหาตลอด ไปขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากที่ต่างๆ ก็พบว่ากล้องวงจรปิดบริเวณลานจอดรถพบว่า น้องการ์ตูนกำลังวิ่งผ่านกล้องไปเวลา 23.40 น. จากนั้นร้านเซเว่นฝั่งตรงข้ามกับจุดเกิดเหตุก็จับภาพคนร้ายจูงน้องการ์ตูนผ่านไปเวลา 23.55 น. และกล้องตัวสุดท้ายของทางกทม.จับภาพเอาไว้ได้ขณะลงจากสถานีรถไฟฟ้าแบริ่งช่วงเที่ยงคืนเศษ

          นางสุไพลี กล่าวต่อว่า ช่วงที่ผ่านมาจากนั้นก็มีเบาะแสมาอีกหลายทางว่าน้องถูกพาไปขอทานที่ร้านหมูกระทะบ้าง หรือไปอยู่ย่านแพรกษา ปากน้ำบ้าง เจ้าหน้าที่ก็ตามไปดู แต่ก็ไม่พบแต่อย่างใด จนกระทั่งมาพบชิ้นส่วนกะโหลกกับเสื้อผ้าของน้องการ์ตูนจึงรีบมาดูทันที ทั้งนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทางมูลนิธิฯ จะสอนเด็กอยู่เป็นประจำว่าอย่าไปไหนกับคนแปลกหน้า หากถูกคนร้ายขู่บังคับก็ให้ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ หรือวิ่งหนีไปหาคนช่วยเหลือ เวลาผู้ปกครองมารับเด็กที่มูลนิธิก็จะถามเด็กตลอดว่ารู้จักคนที่มารับหรือไม่

         ต่อมานายสายันต์ อายุ 32 ปี พ่อของน้องการ์ตูนได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเมื่อนายสายันต์ เห็นเสื้อยืดของน้องการ์ตูน ก็ถึงกับทรุดไปกองกับพื้นร่ำไห้โฮว่า ’พ่อขอโทษ พ่อไม่น่าปล่อยลูกไว้เลย ลูกกูทำอะไรให้ ถึงต้องทำกับลูกกูขนาดนี้’ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพาออกไปสงบสติอารมณ์ ในที่ใกล้เคียง

         นายสายันต์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ปกติลูกสาวเป็นเด็กร่าเริง มักจะซุกซนตามประสาเด็ก แต่ไม่เคยตามคนแปลกหน้าไปไหนเลย ในคืนเกิดเหตุพาลูกสาวมาดูคอนเสิร์ตไหมไทยที่บริเวณใกล้กับจุดเกิดเหตุ แต่ลูกสาวเกิดง่วงเลยพามานอนที่รถเพื่อน ก่อนที่ตนจะกลับเข้าไปดูคอนเสิร์ตต่อ จนกระทั่งช่วงเที่ยงคืนกลับมาที่รถก็ไม่เห็นลูกสาวแล้ว จึงช่วยกันออกตามหาลูก พร้อมทั้งไปขอดูกล้องวงจรปิดของลานจอดรถ แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องรอวันจันทร์ จึงไปแจ้งความไว้ที่สน.บางนา

          หลังจากนั้นก็ออกตามหาลูกทุกวัน ไปทุกหาที่ที่มีคนแจ้งเบาะแสแต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งเมื่อคืนมาทราบว่าพบเสื้อผ้าของลูกสาว พร้อมกะโหลกมนุษย์ จึงรีบเดินทางมาทันที ทั้งนี้ตนอยากให้คนอื่นดูกรณีตนไว้เป็นตัวอย่างว่าไม่ควรปล่อยลูกไว้คนเดียวตามลำพัง มิฉะนั้นอาจจะต้องเสียใจอย่างที่ตนเป็นอยู่ในตอนนี้

          ต่อมา น.ส.ตุ๊กตา อายุ 32 ปี แม่ของน้องตุ๊กตา ได้ตามมายังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเมื่อมาถึงก็เป็นลมล้ม ญาติต้องช่วยกันปฐมพยาบาล จากนั้น น.ส.ตุ๊กตา ได้จุดธูป 1 ดอกที่บริเวณจุดที่พบกางเกงของน้องการ์ตูน กับเส้นผม พร้อมร่ำไห้กล่าวว่า ’การ์ตูนกลับบ้านนะลูก แม่ขอโทษที่ดูแลหนูไม่ดี ขอให้ลูกไปสู่สุขคติ เราคงทำบุญมาด้วยกันแค่นี้ ชาติหน้าขอให้เราเกิดมาเป็นแม่ลูกกันอีก’ ก่อนที่ญาติจะต้องช่วยกันพยุงออกจากจุดเกิดเหตุไป

 

Credit:  เดลินิวส์

แบ่งปันข่าวสาร Like & Share ให้ด้วยนะค่ะ