โอละพ่อ! ไม่ใช่เข็มเล่มเดียว-ไม่ใช่นศ.600คน

จากข่าว “แก๊งหมอเถื่อนใช้เข็มเล่มเดียวเจาะเลือดเด็กอาชีวะกว่า 600คน” ซึ่งทำให้นักศึกษาและผู้ปกครองหลายต่อหลายท่านวิตกกังวัลนั้น ข้อเท็จจริงกลับกลายเป็นเรื่องการหักเหลี่ยมทางธุรกิจ ซึ่งข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า

ความจริง คือ

1. วิทยาลัยการอาชีพแม่สอด จัดการตรวจสุขภาพประจำปีของนักศึกษา ระดับ ปวช.1 ประมาณ 300 คน แต่เจาะเลือดไปได้เพียง 120 กว่าคน ในขณะเดียวกัน เจาะเลือดครู และบุคลากรในวิทยาลัยด้วยประมาณ 80 กว่าคน รวมที่เจาะเลือดก่อนเกิดเหตุไปประมาณ 200 กว่าคน

2.นอกจากเจาะเลือดแล้วยังมีการวัดความดันและเก็บตัวอย่างปัสสาวะไปตรวจตามแผนการคัดกรอง กลุ่มเสี่ยงที่อาจจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติดประจำปี

3.มีบริษัทผู้ดำเนินการตรวจ 3 บริษัท และผู้ประสานงาน 1 ราย (ผู้หญิง) บริษัท A เป็นบริษัทที่เคยดำเนินการวิทยาลัยทั่วประเทศมานานแล้ว  มีใบประกอบการถูกต้อง  โดยมีผู้ประสานงานหญิง เป็นที่รู้จักคุ้นเคยกับผู้บริหารของสถาบันต่าง ๆ ทั่วประเทศ  ภายหลังผู้ประสานงานออกมาอยู่กับบริษัท B (เอส เฮลท์ แคร์) มีใบประกอบการรับดำเนินการในหลายสถาบันทั่วประเทศ  ต่อมา ผู้ประสานงานหญิงดังกล่าวออกไปตั้งบริษัท C (เอส วัน เฮลท์  แคร์) โดยอาศัยความคุ้นเคยกับสถาบันประสานงานติดต่อรับงาน  เสนอเงื่อนไขตอบแทนที่ดีกว่าบริษัทอื่น ๆ คือ จะให้ครูและบุคลากรในวิทยาลัยตรวจฟรี  และหากตรวจเด็กเกิน 800 คน จะสนับสนุนทุนการศึกษาแก่วิทยาลัยจำนวน 22,000 บาท

4.ผอ.วิทยาลัยรู้จักคุ้นเคยกับผู้ประสานงานของบริษัท B แต่เมื่อเข้ามาดำเนินการจริงกลับเป็นชื่อบริษัท C

5.บริษัท C นี้ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านไป ได้รับงานตรวจสุขภาพนักศึกษา วิทยาลัยการอาชีพศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย

6.เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอแม่สอด  ผู้ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ (จากผู้ที่อ้างว่าเป็นเลขา  รัฐมาตรีช่วยว่าการสาธารณสุข) ว่าบริษัทที่จะเข้ามาดำเนินการที่วิทยาลัยการอาชีพแม่สอด เป็นบริษัท C  ไม่มีใบอนุญาต  จึงได้รายงานให้ทางสาธารณสุขจังหวัดตากทราบ ก่อนที่บริษัท C จะเข้าดำเนินการในวันที่ 21 มิถุนายน 2555 แต่ไม่มีการประสานแจ้งให้วิทยาลัยการอาชีพแม่สอดตรวจสอบใบประกอบการ  ก่อนการเริ่มดำเนินการกลับแจ้งตำรวจ  และผู้สื่อข่าวเข้าจับกุม  และทำข่าว

7. หัวหน้าทีมที่อ้างว่าเป็นแพทย์ไม่มีใบอนุญาตประกอบโรคจริงและถูกดำเนินคดีแล้ว

8. มีเจ้าหน้าที่พยาบาล จากโรงพยาบาล เป็นผู้เจาะเลือดให้นักศึกษาด้วย

*เรื่องที่ไม่จริง คือ ไม่มีการใช้เข็มเล่มเดียวเจาะเลือดนักศึกษา ถึง 600 คน

สรุป เรื่องที่สร้างความวิตกกังวลให้แก่นักศึกษา 100 กว่าคน ที่ถูกเจาะเลือดรวมทั้งผู้ปกครองดังกล่าว จะไม่เกิดขึ้น ถ้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประสานงานกับวิทยาลัยก่อนที่จะปล่อยให้บริษัท C  เข้าดำเนินการ เรื่องนี้มีสาเหตุมาจากบริษัท B เสียผลประโยชน์  ข่าวนี้ได้รับการเลือกเสนอเฉพาะบางแง่มุม  จึงทำให้เกิดความหวาดวิตกและสร้างผลกระทบต่อสังคม

Credit by นสพ.แผ่นดินแม่