แม่สอด-ตาก นายกแม่สอดเร่งรัด ขอใช้ พื้นที่ 3,000 ไร่ สร้างศูนย์ราชการ‏

นายกแม่สอดเร่งรัดสร้างศูนย์ราชการ

แม่สอด-ตาก  ประชุม กรอ. ตาก  นายกเทศมนตรีนครแม่สอด ยื่นหนังสือถึง ผวจ. ขอพื้นที่ 3,000 ไร่ สร้างศูนย์ราชการ และพื้นที่ก่อสร้างโครงการรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษและ อปท.รูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด”

เมื่อวันที่ 22  มิถุนายน 2555   นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดตาก(กรอ.ตาก) ครั้งที่4/2555 ที่ห้องตากสินมหาราช ศาลากลางจังหวัดตาก โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ-ผู้บริหารท้องถิ่น-ผู้นำภาคเอกชน หอการค้าและสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก เข้าร่วมประชุมกว่า 80 คน ทั้งนี้เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจและรับทราบแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดตาก ซึ่งนายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแม่สอด  ได้ยื่นหนังสือถึง ผวจ.ตาก เพื่อติดตามเร่งรัดขอใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 3,000 ไร่ บริเวณด้านข้างมหาวิทยาลัยราชภัฏแม่สอด ถนนสายตาก-แม่สอด เพื่อสร้างศูนย์ราชการแห่งใหม่ และเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการต่างๆเพื่อรองรับ “นครแม่สอด” เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษและ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)รูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด”  รวมทั้งรองรับต่อการที่ประชาชนในพื้นที่ 5 อำเภอชายแดนไทย-พม่า( อ.แม่สอด-พบพระ-ท่าสองยาง-แม่ระมาดและอ.อุ้มผาง) ได้ร่วมลงลายมือชื่อกว่า 30,000  คน เพื่อยื่นร่างพระราชบัญญัติ(พรบ.)จัดตั้งจังหวัดแม่สอด เสนอต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์  ประธานรัฐสภา

นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์  นายกเทศมนตรีนครแม่สอด กล่าวว่า การเป็นเมืองหน้าด่านบนระเบียงเศรษฐกิจอิสเวตส์อิโคโนมิคคอริดอร์ EWEC และรองรับการเป็นประตูสำคัญของ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน AEC  ปี 2558  ทำให้เราต้องมีการเตรียมพื้นที่รองรับ และที่สำคัญคือแม่สอดเป็นเมืองการค้าชายแดนมีการขนส่งและถ่ายเทสินค้าของรถบรรทุกสินค้าจำนวนมากในแต่ละวัน บางครั้งมีการถ่ายเทสินค้าที่กลางถนน ทำให้การจราจรไม่คล่องตัว จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องจัดหาพื้นที่สร้างอาคารพาณิชย์เพื่อใช้เจรจาด้านธุรกิจและศูนย์ถ่ายสินค้า ซึ่งพื้นที่ที่เหาะสมคือจุดที่จะใช้เป็นศูนย์ราชการแห่งใหม่และพื้นที่เตรียมโครงการรองรับการพัฒนา “นครแม่สอด” จำนวน 3,000 ไร่   ตนเองในฐานะ คณะกรรมการ กรอ.ตาก จึงขอให้ทาง ผวจ.ตาก ได้เร่งดำเนินการอนุญาตให้ใช้พื้นที่ดังกล่าวตามที่ได้ยื่นเสนอขอต่อไปอย่างเร่งด่วน

“นอกจากนี้ในส่วนของการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวในพื้นที่เขตเศรษฐกิจชายแดนนั้น ขอให้เร่งรัดการพิจารณาความร่วมมือระหว่างกระทรวงแรงงาน-กระทรวงมหาดไทย-กระทรวงการต่างประเทศ-สภาความมั่นคงแห่งชาติ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่น เพื่อการเจรจากับรัฐบาลพม่าในการออก COI ให้กับแรงงานต่างด้าว สัญชาติพม่าบริเวณชายแดน เพื่อจะได้เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งการออกกฎกระทรวงแรงงาน รองรับ พรบ.การทำงานของแรงงานต่างด้าว พ.ศ.2551 มาตรา 14”  นายกเทศมนตรีนครแม่สอด กล่าว

Credit:  Manager.co.th