แม่สอดเนื้อหอม นักธุรกิจต่างชาติแห่ลงทุน

ประธานหอการค้าตาก เผยเขตเศรษฐกิจชายแดนแม่สอด เนื้อหอม นักธุรกิจ”ไทย-จีน-ญี่ปุ่น” สนใจลงทุนชายแดน และฝั่งพม่า

นายบรรพต  ก่อเกียรติเจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดตากกล่าวถึงสถานการณ์การลงทุนในพม่า และชายแดนไทย – พม่า ด้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ว่า หลังจากนางสาวยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี เดินไปทางที่อำเภอแม่สอด เพื่อดูพื้นที่เขตเศรษฐกิจชายแดนอำเภอแม่สอด แล้ว และคณะรัฐมนตรีได้ประกาศจัดตั้งการพัฒนาบริหารเขตเศรษฐกิจชายแดนแม่สอด โดยให้อำเภอแม่สอด เป็นพื้นที่นำร่อง ทำให้นักลงทุนทั้งคนไทย จีน และชาวญี่ปุ่น รวมทั้งบริษัทใหญ่ลงไปพื้นที่ชายแดน และในฝั่งพม่า เพื่อหันไปสนใจการค้า การทุนในพม่า กับพื้นที่ชายแดนไทย – พม่า ด้านอำเภอแม่สอด มากขึ้น

โดยนักลงทุนสนใจทั้งสองฝั่งไทย-พม่า และสิ่งที่นักลงทุนต่างให้ความสนใจในเรื่องแรกคือ เรื่องโครงสร้างพื้นฐานในฝั่งไทยและพม่า ขณะที่ในส่วนนี้ ในฐานะภาคเอกชนได้เสนอเตรียมพื้นที่เขตเศรษฐกิจ เป็นพื้นที่ 14,900 ไร่ และการสร้างสะพานมิตรภาพไทย – พม่า แห่งที่ 2 รวมทั้งการพัฒนาถนนเชื่อมโยง โดยต้องทำเป็นแผนแม่บท ซึ่งรัฐบาลจะต้องพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว ในระยะเวลา 3 – 5 ปี

นายบรรพต กล่าวว่า เท่าที่ตนเองไปสัมผัสในประเทศพม่า และศึกษาดูกฎระเบียบของพม่าแล้ว ทราบว่า ตั้งแต่พม่าเปิดประเทศมา มีการออกกฎระเบียบของทางการพม่ามีความยืดหยุ่นไปมากกว่าก่อน เพื่อรองรับการค้าการลงทุนของชาวต่างชาติ เช่นการผ่อนปรนให้สัมปทานกับนักลงทุนที่สนใจ โดยทำสัญญาเช่าพื้นที่ 50 ปี สามารถขยายเวลาได้คราวละ 10 ปี ส่วนการประสานงานกับฝ่ายพม่า กับภาคเอกชนนั้น มีการติดต่อ ขอให้นักลงทุนไทยและต่างชาติเข้าไปลงทุนในเขตนิคมอุตสาหกรรมของพม่า ขณะที่ในอนาคต ไทย กับ พม่า สามารถสามารถเชื่อมต่อกันได้ มีกฎหมายเอื้อต่อนักลงทุนทั้ง 2 ฝ่าย ก็สามารถทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกนักลงทุนไทยทีไปเช่าใช้พื้นที่ในพม่า ควรตระหนักในเรื่อง สาธารณูปโภค ขั้นพื้นฐานที่เป็นปัจจัยหลัก เช่น น้ำ ไฟฟ้า และอื่นๆ รวมทั้ง เรื่อง ระบบราชการ ที่ต้องยอมรับว่าพม่า ต้องใช้เวลาในการพัฒนาอีกระยะหนึ่ง แต่ในทางกลับกันพม่าก็มีจุดแข็ง ในเรื่องของสิทธิประโยชน์ หรือแรงงานราคาถูก

Credit by กรุงเทพธุรกิจ