ศาลแม่สอดสืบพยานโจทก์คดีแคดเมี่ยมวันที่ 2

แม่สอด: ศาลจังหวัดแม่สอด ยังคงสืบพยานโจทก์เป็นวันที่ 2 อุปนายกสภาทนายความ ชี้ไม่ถึง 1 ปี จบที่ศาลชั้นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านลุ่มน้ำแม่ตาว ตำบลพระธาตุผาแดง ตำบลแม่ตาว และตำบลแม่กุ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ที่ได้รับผลกระทบปนเปื้อนจากสารแคดเมี่ยม ยังคงเดินทางไปให้ปากคำต่อศาลจังหวัดแม่สอด ในฐานะพยานฝ่ายโจทย์ เป็นวันที่ 2 หลังจากที่กลุ่มสนับสนุน และให้กำลังใจกว่า 300 คน ได้เดินทางไปชุมนุมใหญ่ที่ศาลจังหวัดแม่สอดก่อนหน้านี้ ที่ด้านหน้าศาลจังหวัดแม่สอด

โดยในวันนี้ ( 23 มิ.ย.) ทางนายสุวิชา สุขเกษมหทัย หัวหน้าศาลจังหวัดแม่สอด ได้ยังคงระดมผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ศาลประจำจังหวัดแม่สอด เร่งสืบพยานโจทก์ ในคดีหมายเลข ปพ.6/2556 ระหว่างนายติ๊บ ยาเถิน กับพวกรวม 218 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัทผาแดง อินดัสทรี มหาชน จำกัด เป็นจำเลยที่ 1 และบริษัทตากไมนิ่ง จำกัด เป็นจำเลยที่ 2 ซึ่งคดีนี้ศาลจังหวัดแม่สอด โดยจัดเป็นโครงการ ” ฟ้องแล้วสืบพยานเลย” หลังจากที่ได้รับการส่งประเด็นมาสืบพยานโจทก์จากศาลแพ่งกรุงเทพใต้ มาสืบพยานโจทก์ที่ศาลจังหวัดแม่สอด การชุมนุมเคลื่อนไหวดังกล่าว ยังคงมีเจ้าหน้าที่จากสภาทนายความ ไปช่วยดูแลลูกความของตนเอง

นายสุวิทย์ เชยอุบล อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ สภาทนายความในระบบราชูปถัมภ์ กล่าวว่า คดีนี้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2552 โดยเริ่มจากมีผู้ป่วยในพื้นที่ 3 ตำบล เกิดอาการป่วยด้วยสารแคดเมียมในร่างกาย จึงไปร้องเรียนต่อสภาทนายความ และเห็นว่า เป็นเรื่องสิ่งแวดล้อม จากนั้นทางสภาทนายความได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา และได้มอบให้สำนักงานสิ่งแวดล้อมเป็นผู้แลรับผิดชอบ โดยลงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านที่มีอาการป่วย ตรวจสอบพืชผลทางการเกษตร และสัตว์เลี้ยง ซึ่งได้รับผลกระทบทั้งหมด

โดยเฉพาะข้าวที่ปลูกเป็นอาชีพของชาวบ้าน นั้นได้รับความเสียหายอย่างมาก จากเดิมข้าวในพื้นที่ติดอันดับของประเทศ ก็ได้รับความเสียหาย จึงได้รวบรวบข้อมูลทั้งหมด และส่งฟ้องคดที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เดิมชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบขณะนั้นมี กว่า 1,000 คน และตอนหลังฟ้องคดีแล้วมี 1,082 คน และแยกฟ้องออกเป็น 7 กลุ่ม รวมทุนทรัพย์ที่ฟ้องทั้งหมด กว่า 3,000 ล้านบาท และขณะนี้คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลและซึ่งคาดว่าเสร็จสิ้นในศาลชั้นต้น ไม่ถึง 1 ปี