• Home »
  • ข่าวทั่วไป »
  • ตำรวจจับยาล็อตใหญ่ “เฉลิม” ลั่น “ฆ่าตัดตอน” รีเทิร์น! ,สั่งจับตาดู “นะคะมวย”

ตำรวจจับยาล็อตใหญ่ “เฉลิม” ลั่น “ฆ่าตัดตอน” รีเทิร์น! ,สั่งจับตาดู “นะคะมวย”

ร.ต.อ.เฉลิม แถลงผลการจับกุมของตำรวจ

ร.ต.อ.เฉลิม แถลงผลการจับกุมของตำรวจ

ตำรวจปราบปรามยาเสพติดจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ ชาวนราธิวาสร่วมกับชาวมาเลเซีย ลอบขนยาไอซ์ถึง 26 กก. อีกรายจับยาบ้า 40,000 เม็ด ยาไอซ์อีกเกือบ 39 กก. “เฉลิม” ลั่น นับจากนี้ไป “ฆ่าตัดตอน” จะเกิดขึ้นอีกจำนวนมาก จากสาเหตุที่ตำรวจจับกุมผู้ค้ายาเสพติดได้มากขึ้น บรรดา “ขาใหญ่” จะเข้าใจว่าลูกน้องหักหลัง จะหันมาจัดการกันเอง กำชับตำรวจตรวจเธค-ผับทุกที่ รายไหนไม่ให้ความร่วมมือสั่งปิดทันที 

วันนี้ (16 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน บช.ปส. แถลงการจับกุม นายซาฮัด บิน กัสสิม (Sahat Bin Kassim) อายุ 55 ปี นายอับดุล ราฮิม บิน กัสสิม (Abdul Rahim Bin Kassim) อายุ 45 ปี นางซาลาวาติ บินติ วากิโย (Salawati binti Wagiyoh) อายุ 37 ปี นางนอร์ซาวาติ บินติ รามลิ (Norzawati binti Ramli) อายุ 34 ปี สัญชาติมาเลเซีย นางยูรีซา อิมือซา อายุ 34 ปี ชาวนราธิวาส และนายมูหามัด นาซูซี มะยูโซ๊ะ อายุ 31 ปี ชาวนราธิวาส พร้อมของกลาง ไอซ์ 26 กก. เฮโรอีน 25 กรัม รถยนต์ยี่ห้อโปรตอน สีขาว ทะเบียน PKB 4090 (ทะเบียนมาเลเซีย) รถยนต์ยี่ห้อซันยอง สีดำ ทะเบียน สท 4853 กทม. ซึ่งดัดแปลงไฟท้ายรถยนต์เป็นช่องลับซุกซ่อนยาเสพติด รถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีขาว ทะเบียน ญฬ 1083 กทม.

พล.ต.ต.สุรพลกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.สืบทราบว่านางยูรีซา อิมือซา และนายซาฮัด สามี มีพฤติกรรมค้ายาเสพติดข้ามจากประเทศไทยไปยังมาเลเซีย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เฝ้าสังเกตการณ์พบสองสามีภรรยาขับรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีขาว ทะเบียน ญฬ 1083 กทม. จากบ้านพักเลขที่ 426 ม.ลพบุรีราเมศวร์สงขลาธานี หมู่ 6 ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไปพบนายมูหามัดและนางนอร์ซาวาติ บริเวณที่จอดรถยนต์ด้านข้างโรงแรมวินสตาร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และได้ยื่นกุญแจรถกระบะให้นายมูหามัด ก่อนที่สองสามีภรรยาได้ขับรถเก๋งซันยองสีดำกลับบ้านไป จากนั้นมีนายอับดุล และนางซาลาวาติ ลำเลียงยาเสพติดออกจากช่องลับที่จัดทำไว้บริเวณไฟท้ายรถยนต์ทั้งสองข้าง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม และตรวจค้นพบยาไอซ์ 26 ถุงๆ ละ 1 กก. เมื่อตรวจคันบ้านพักพบเฮโรอีนอีก 1 ถุง หนัก 25 กรัม เงินสด 5,704,000 บาท เงินสกุลริงกิต จำนวน 773,290 ริงกิต เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต

คดีที่ 2 เจ้าหนาที่ตำรวจ บก.ปส.3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. จับกุมนายสุทัศน์ หรือน้ำ ส่วยเหย่ ชาวเขาเผ่ามูเซอ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ที่ 7 ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน นายบัณฑิต หรือเอก หทัยวรกาญจน์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ที่ 7 ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมของกลางยาบ้า 40,000 เม็ด ยาไอซ์ 38.9 กก. พร้อมยึดสมุดบัญชีธนาคารไว้ตรวจสอบ โดยแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบจากสายลับว่านายสุทัศน์มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ไม่มีงานทำแต่มีเงินใช้จ่ายและมีคอนโดมิเนียมหลายที่ และทราบว่านายสุทัศน์ พักอยู่ที่ห้องเลขที่ 69/85 ชั้น 4 อาคารบุญสิตาคอนโด ซ.นวมินทร์ 123 ถ.นวมินทร์ แขวงคลองกุม เขตบึงกุ่ม กทม. จึงได้จัดกำลังชุดสืบสวนติดตามพฤติกรรม จนกระทั่งวันที่ 15 พ.ค. พบนายสุทัศน์ขับขี่จักรยานยนต์ออกจากคอนโดฯ เพื่อไปส่งของให้นายบัณฑิตซึ่งขับรถยนต์มาสด้า สีเทา ทะเบียน ฎร-4220 มารับของย่านนวมินทร์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้แยกออกไป 2 ชุด ชุดหนึ่งติดตามนายบัณทิตไปตรวจค้นภายในรถพบยาบ้า 20,000 เม็ด อีกชุดได้ติดตามนายสุทัศน์ไปตรวจค้นที่บุญสิตาคอนโดฯ พบยาไอซ์รวม 38.9 กก. และยาบ้าอีก 20,000 เม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมทั้งสองคนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า นับจากนี้ขบวนการค้ายาเสพติดจะฆ่ากันเองมากขึ้น เรียกว่าฆ่าตัดตอน โดยพวกขาใหญ่จะคิดว่าลูกน้องหักหลัง เพราะตำรวจจับกลุ่มได้มากขึ้น ยืนยันว่าพวกที่ฆ่ากันเองพวกนี้ ตำรวจไม่สามารถป้องกันได้ เพราะเราเองก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร และขอบอกไว้ว่าตำรวจไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ถ้ารู้ว่าใครเกี่ยวข้องจะถูกดำเนินการหมด ตำรวจยุคนี้จะไม่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเพสติด นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ปานศิริ เข้าไปเข้มงวดกับสถาบริการที่ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด บางครั้งก็ต้องค้นกันเอง ถ้าเจ้าของไม่รู้เห็นเป็นไปไม่ได้ โดยจะให้เริ่มปฎิบัติตั้งแต่วันนี้ ถ้าผับเธคไหนไม่ให้ความร่วมมือก็ให้สั่งปิดไปเลย คิดว่าถ้าไม่มีผับเธค เด็กก็ไม่ตาย

  ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวถึงกรณีการจับกุม พล.ต.นะคะมวยว่า เป็นสัญญาณที่ดีที่ทางพม่าขอหลักฐานต่างๆ เพิ่มจากไทย เราก็จะได้จัดส่งสำนวนการสืบสวน คำให้การพยานแวดล้อม คำพิพากษาส่งไปให้ และทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ตัว พล.ต.นะคะมวย ตอนนี้นับได้ว่า พล.ต.นะคะมวยไม่กล้าผลิตยาบ้าก็ถือว่าดีแล้ว ส่วนเรื่องที่มีคนพูดว่าตนทำให้การค้าชายแดนซบเซานั้น คนพูดคิดได้อย่างไร ถ้าจะมีปัญหาก็คงทำให้การค้าของผิดกฎหมายซบเซามากกว่า

Credit by Manager.co.th

แบ่งปันข่าวสาร Like & Share ให้ด้วยนะค่ะ