ชาวบ้านโวย สุดทนบ่นมาหลายปี!

ชาวบ้านโวย สุดทนบ่นมาหลายปี!

ข่าวแม่สอด ตาก : ชาวบ้านโวย !!! สุดทน บ่น..มาหลายปี ถนนในหมู่บ้านไม่ดี… เกิดอุบัติเหตุ ทุกปี “ไม่มีใครเหลียว..แล” เคยรวมเงินและรับบริจาคเป็นจำนวนมากนำมาซ่อมแซม

        เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม2558  ชาวบ้านร่มเกล้าสหมิตรหมู่ที่ 5ตำบลคีรีราษฎร์   อ.พบพระ จ.ตาก กำลังได้รับความเดือดจากถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ ทำให้ไปมาไม่สะดวก บางครั้งเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง  นายอาตี๋ ยอลือ  ผู้ใหญ่บ้านร่มเกล้า สหมิตร เล่าว่า บ้านร่มเกล้าสหมิตร มีประชากรประมาณ3,000 คนจำนวนครัวเรือนประมาณ 500 ครัวเรือน มีหลายชนเผ่าที่อยู่ร่วมกัน ที่ผ่านมา หมู่บ้านใด้แยกเป็น อีก1หมู่ คือบ้านร่มเกล้าเจริญสุข หมู่ที่13 ซึ่งอยู่คนละฝากถนน แต่ชุมชนก็อยู่ติดกัน และก็ทำกิจกรรมประเพณีและวัฒนธรรมในหมูร่วมกัน ปกติเหมือนเดิม   ถนนที่เสียหายชาวบ้านเคยเรี่ยไรเงินนำมาซ่อมแซม วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว.เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง  ผู้ใหญ่บ้านกล่าว
         นายชีเพ่ พ่อคำ รองนายก อบต.คีรีราษฎร์  กล่าวว่า ทางอบต.คีรีราษฎร์ ใด้รับการร้องเรียน จากชาวบ้านตามความเดือดร้อน และจะใด้ทำหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป  แต่ก็ยังไม่ใด้รับการแก้ไข ปัญหาดังกล่าว เนื่องจากต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก ทางอบต.ไม่มีงบประมาณที่เพียงพอในการแก้ไขปัญหาถนนเส้นทางนี้  มีประชากรหลายหมู้บ้าน ใช้สัญจรไปมาเป็นประจำ มี บ้านห้วยใผ่,บ้านป่าคาเก่า,บ้านป่าคาใหม่และสามารถไปยังบ้านป่าหวาย ซึ่งมีน้ำตกป่าหวายเป็นแหล่งท่องเที่ยว แห่งหนึ่ง ของอำเภอพบพระ ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ  และยังเป็นเส้นทางขนส่งผลผลิตทางการเกษตร ของชาวบ้าน รองนายกอบต.กล่าว
นายสมพงษ์ พงษเจริญ สมาชิกอบต.หมู่5 ต.คีรีรษฎร์ บอกว่า ตนเองโดนชาวบ้านด่าทุกวัน ช่วยอะไรชาวบ้านไม่ใด้เลย บางครั้งก็ท้อ
และเคยเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านอบต. หลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข สมาชิกอบต.กล่าว
        นางศิริพร ธรรมศรี บ้านเลขที่730ม.5 กล่าวว่า ตนเป็นคนบ้านนี้ตนเคยประสบอุบัติเหตุรถมอไซต์ล้ม วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาช่วยดำเนินการแก้ไขนางศิริพร ธรรมศรี กล่าว

        เนื่องจากหมู่บ้านร่มเกล้าสหมิตร อยู่ต่ำกว่า แปลงไร่ของเกษตรกร ซึ่งเดิมในสมัยก่อน แปลงไร่ทำกิน ยังมีต้นไม้ มีป่าไผ่ แต่ปัจจุบัญ เป็นที่โล่ง ปลูกผัก ปลูกข้าวโพดช่วงเวลาฝนตก แต่ละครั้ง น้ำที่ไหลมาจากในไร่ จะไหลเข้าสู่หมู่บ้าน ทุกครั้ง ทำให้ถนนเสียหาย และบ้านเรือนชาวบ้านก็เสียหายไปด้วยประกอบกับ การปลูกบ้านเรือนที่อยู่อาศัย มีมากขึ้น การระบายน้ำ ไม่สะดวก และการพัฒนาทำใด้ยากมาก ขึ้น ติดขัดปัญหาหลายๆอย่าง หากหน่วยงานที่เกียวข้อง ลงมาในพื้นที่ รับฟังปัญหา ร่วมกับชาวบ้าน ผู้นำท้องถิ่น อย่างจริงจริง จังจัง มารับทราบความเป็นจริง มาดูพื้นที่จริง ช่วยกัน หาแนวทางแก้ไข ปัญหา ที่เกิดขึ้น จะช่วยลดปัญหาดังกล่าวใด้ และจะใด้แก้ไขถูกจุดตรงปัญหานางศิริพร กล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลโดย สำนักข่าว : พบพระโพสต์

แบ่งปันข่าวสาร Like & Share ให้ด้วยนะค่ะ