โหรหลอกข่มขืนเด็ก อ้างเปลี่ยนชื่อเสริมชะตา

โหรหลอกข่มขืนเด็ก  อ้างเปลี่ยนชื่อเสริมชะตา

โหรหลอกข่มขืนเด็ก อ้างเปลี่ยนชื่อเสริมชะตา

เด็กหรือเยาวชน  เป็นวัยที่ค่อนข้างถูกหลอกได้ง่าย  ความกลัวต่าง ๆ  จึงทำให้เด็กเหล่านี้รู้เท่าไม่ถึงการณ์  ถูกหลอก  ถูกทำร้ายอยู่ตลอดเวลา  อีกทั้งบางครั้งการถูกเพื่อนชักชวน  ก็ทำให้หลงเชื่อง่าย  ไม่คิดง่ายเพื่อนจะหลอก  หรือทำร้ายเรา

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 27 มิ.ย. พ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน ผกก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.อัศวิน หวังสู้ศึก รอง ผกก.1 ปคม. นำหมายศาลอาญาเลขที่ 953/2555 ลงวันที่ 27 มิ.ย.55 เข้าทำการจับกุมนายทรงวุฒิ เจริญชัย อายุ 57 ปี เจ้าสำนักโหราศาสตร์ชื่ออาจารย์ณัชชวี เลขที่ 65/7 ถนนพุทธมณฑลสาย 3 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี เป็นธุรกิจจัดหาให้มีการค้าประเวณี

โดยขณะที่เข้าจับกุมเจ้าหน้าที่พบเด็กนักเรียนหญิง ชั้น ม.2 ย่านบางแค จำนวน 4 คน นั่งรอทำการเปลี่ยนชื่อ โดยตึกดังกล่าวสูง 3 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นตำหนักดูโหราศาสตร์ ดูดวง ดูฤกษ์ ชั้น 2 เปิดเป็นห้องทำพิธีกรรมลงนะหน้าทอง ส่วนชั้น 3 เป็นห้องเปล่า จากการตรวจค้นภายในชั้น 2 พบถุงยางอนามัยจำนวนมาก อวัยวเพศชายปลอมจำนวน 1 อัน กาแฟปลุกเซ็กส์หลายซอง ยาไวอาก้า เสื้อผ้าและกางเกงในผู้หญิงจำนวนมาก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.ชิตภพ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา(25 มิ.ย.) มีนักเรียนหญิงโรงเรียนชื่อดังย่านศาลายา 4 คน เดินทางเข้าพบตำรวจ บก.ปคม. ว่า ได้ถูกผู้ต้องหากระทำชำเรา และบังคับให้ค้าประเวณี โดยทั้งหมดถูกหลอกจากเพื่อนผู้หญิงที่ถูกไล่ออกจากโรงเรียนให้ไปหาผู้ต้องหา โดยอ้างว่าทุกคนกำลังมีเคราะห์ หากทำการเปลี่ยนชื่อแล้วจะดีขึ้น ทุกคนก็หลงเชื่อ โดยผู้ต้องหาจะให้เด็กนักเรียนหญิงแต่ละคนสลับกันขึ้นทำพิธีที่บริเวณชั้น2 ทีละคน โดยผู้ต้องหาจะหลอกให้นักเรียนหญิงถอดเสื้อผ้าออกหมด แล้วให้นอนลงก่อนจะนำผ้าขาวมาคลุมตัวไว้ ก่อนที่จะร่ายมนต์คาถาต่างๆ จากนั้นก็จะใช้มือลูบคลำที่อวัยวเพศ ก่อนจะลงมือข่มขืน

โดยจะทำกับเด็กทุกคน แล้วจะบอกกับทุกคนว่า พิธีกรรมสำเร็จแล้ว ต่อไปนี้จะโชคดี ชีวิตเจริญก้าวหน้า มีเงินมีทองเข้ามาตลอด หลังจากนักเรียนทุกคนกลับบ้านไปแล้ว ผู้ต้องหายังโทรฯติดต่อกับทุกคน ถ้าใครอยากได้เงินใช้ให้มาหาอาจารย์ แต่หากใครไม่มาหาจะเสกคุณไสยเข้าท้อง ซึ่งเด็กทุกคนก็กลัวจึงเดินทางมาอีก ก่อนที่ผู้ต้องหาจะหลอกให้ค้าประเวณีกับผู้ชายต่างๆ โดยคนที่ได้ค่าตัวสูงสุดอยู่ที่ 4,000 บาท ทำแบบนี้อยู่หลายครั้ง

พ.ต.อ.ชิตภพ กล่าวต่อไปว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าตนเป็นชาวอุดรธานี เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ได้บวชเป็นพระจำพรรษาอยู่ที่วัดที่อุดรฯ ได้ประมาณ 10 พรรษา เกิดศรัทธาและคลั่งไคล้ไสยศาสตร์จึงเดินทางมาหาห้องเช่าที่กรุงเทพฯ ก่อนจะมาเปิดตำหนักที่ตึกดังกล่าว พร้อมกับตั้งตนเป็นอาจารย์รับดูดวง ดูฤกษ์ เปลี่ยนชื่อ นามสกุล และดูโหราศาสตร์ ส่วนถุงยางที่พบ ผู้ต้องหาอ้างว่า ซื้อเก็บไว้ใช้เอง เวลามีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิง และจะใช้ยาไวอาก้าด้วยทุกครั้งเพราะอายุเยอะแล้ว

ส่วนเสื้อผ้าผู้หญิงเป็นของคนอื่นที่เข้ามาเรียนเรื่องการนวดถอดทิ้งไว้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจคำให้การ เพราะพยานหลักฐานแน่นหนา จึงควบคุมตัวไปที่บก.ปคม. เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมกับดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

Credit:  เดลินิวส์

แบ่งปันข่าวสาร Like & Share ให้ด้วยนะค่ะ