โจ๋โหดมอบตัวอ้างไม่เกี่ยวข้อง คดียิงหนุ่มหน้าสถานทูต

โจ๋โหดมอบตัวอ้างไม่ได้ยิง

โจ๋โหดมอบตัวอ้างไม่ได้ยิง

จากเหตุการณ์นี้ก็นับว่าวัยรุ่นไทยอารมณ์รุนแรงเป็นอย่างยิ่ง  เพียงแค่เหยียบเท้าก็สามารถตามไล่ฆ่ากันได้  ล่าสุดก็ได้มีผู้ต้องหามามอบตัวแล้ว  อ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง  แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องรอผู้ต้องหารายอื่นมอบตัวก่อน  แล้วจึงจะสามารถสรุปได้ว่า วัยรุ่นที่เข้ามอบตัว 2 คนนี้เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่

เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่ บช.น. พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผบช.น. รับผิดชอบงานด้านป้องกันปราบปราม พร้อมด้วยพล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.น.1 พ.ต.อ.พจน์ บุญมาภาคย์ รองผบก.น.1 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ห้วยขวาง แถลงข่าวการมอบตัวของนายดำ และนายแดง (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี และ อายุ 15ปี  ผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา พร้อมด้วยของกลางรถจยย.ฮอนด้า สกูปี้ไอ สีเหลือง-ดำ ทะเบียน อตย357 กรุงเทพมหานคร

พล.ต.ต.ปริญญา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 02.15 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่นายวุฒิชัย แคโอชา อายุ 29 ปี เสียชีวิตบริเวณหน้าสถานทูตจีน ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ห้วยขวาง ได้ทำการสืบสวนหาเบาะแสของคนร้าย จนทราบว่านายดำและนายแดง พร้อมพวกอีก 2 คน คือนายสุรศักดิ์  ขุนทอง อายุ 20 ปี และนายหนุ่ม (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุล) เป็นกลุ่มที่ก่อเหตุ โดยนายหนุ่มเป็นคนใช้รถจยย.ยิงผู้ตาย สาเหตุเกิดจากกลุ่มผู้ตายไปเหยียบเท้านายสุรศักดิ์ ในห้องน้ำร้านเพียวบาร์ รัชดาซอย 4 ทำให้เกิดความไม่พอใจ จึงมาบอกเพื่อน ก่อนที่ร้านจะปิดกลุ่มผู้ต้องหาได้ตระเวนตามหากลุ่มผู้ตาย เมื่อมาเจอในที่เกิดเหตุก็ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ตาย 2 นัด กระสุนไปถูกนายวุฒิชัยเสียชีวิต

จากการสอบสวนนายดำ ให้การว่า ไม่รู้ว่ากลุ่มเพื่อนที่ไปเที่ยวจะตามไปยิงใส่กลุ่มผู้ตาย และตนคิดว่าไม่มีความผิดจึงเข้ามอบตัว ทั้งนี้หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปยังจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านเกิดของทั้ง 4 คน แต่ญาติแนะนำให้เข้ามอบตัวสู้คดี

ด้าน พ.ต.อ.ไกรเลิศ บัวแก้ว รองผบก.น.1 รักษาราชการแทนผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า  ขณะนี้นายสุรศักดิ์ที่ถูกกลุ่มผู้ตายเหยียบเท้า ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวผ่าน ส.ข.กรุงเทพมหานครเขตดินแดงแล้ว หลังจากหลบหนีไปอยู่ที่อ.ปากพนัง โดยจะเข้ามอบตัวสู้คดีในช่วงเย็นวันนี้ (8 ส.ค.) ส่วนนายหนุ่ม มือปืน ทางตำรวจก็ขอให้รีบมามอบตัวเช่นกัน

 

Credit:  เดลินิวส์

แบ่งปันข่าวสาร Like & Share ให้ด้วยนะค่ะ