โจ๋ปล้นร้านทอง พลาดถูกยิงสาหัส

โจ๋ปล่้นร้านทอง พลาดโดนยิงสาหัส

โจ๋ปล่้นร้านทอง พลาดโดนยิงสาหัส

ดี๋ยวนี้ธุรกิจซบเซา  โจรขโมยมีมากขึ้น  อีกทั้งโจรขโมยก็มีอายุน้อยลง  วุฒิภาวะเริ่มน้อยลง  จึงทำให้คิดการณ์ใหญ่ปล้นร้านทอง  แต่พลาด  จึงทำให้บาดเจ็บสาหัส

วันนี้( 6 ก.ค.) พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ฟูสินไพบูลย์ รอง ผกก.สส.สน.บางเขน รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ร้านทองเยาราช (กม.4) ถนนรามอินทรา ขาออกช่วง กม. 4 เลขที่ 31/8 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน รีบไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ ผบก.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.เสน่ห์ มณีฉาย สว.สส.สน.บางเขน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพานิชย์ สูง 4 ชั้น ชื่อร้านทองเยาวราช (กม.4) สภาพกระจกหน้าร้านแตกกระจาย มีหยดเลือดของคนร้าย 3-4 หยด ที่ตู้ใส่ทองมีรูกระสุนจำนวน 2 รู หน้าร้านมี จยย.ยามาฮ่า รุ่นนูโว เอส เอ็กซ์ สีน้ำตาลคาดขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นของคนร้ายจอดอยู่ ส่วนคนร้ายสองคนวิ่งหนีไปในซอยรามอินทรา 37 ห่างออกไป 30 เมตรจากจุดเกิดเหตุ แล้วหลบเข้าไปในอู่ซ่อมรถยนต์ไม่มีชื่อ เลขที่ 30/99 ทางพ.ต.ท.เสน่ห์ มณีฉาย สว.สส.สน.บางเขน พร้อมกำลังทั้งสายสืบและสายตรวจ จึงรีบตามเข้าไปชาร์จจับกุมตัวคนร้ายได้ทั้งสองคน ภายในเวลาเพียง 15 นาที ทราบชื่อนายสิทธิโชคแก้วกล้า หรือปาล์ม มีบาดแผลที่คิ้วข้างซ้าย และนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี มีบาดแผลถูกเจ้าของร้านทองยิงเข้าที่ กลางหลัง 1 นัด ที่เอวซ้าย 1 นัด เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูจีบรีบนำตัวส่ง รพ.ภูมิพล รักษาเป็นการด่วน เบื้องต้นรักษาตัวในห้องไอซียู

สอบสวนนายสานิตย์ โป่งจินา อายุ 40 ปี เจ้าของร้าน ทราบว่า ขณะเกิดเหตุตนอยู่ที่เคาน์เตอร์ร้าน เพียง 1 คน ส่วนที่หน้าร้านมีช่างรับเลี่ยมพระนั่งอยู่อีก 1คน จังหวะเกิดเหตุคนร้าย 2 คน สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ โดยนายปาล์มสวมหมวกสีขาวถือปืนขนาด.38 ลูกโม่ ส่วนนายเอ สวมหมวกสีดำ ถือกระบอง ทั้งสองใส่แจ็คเก็ตสีดำ และสวมถุงเมื่อ ได้ผลักประตูเข้ามา แล้วนายปาล์มได้ยิงปืนใส่ทันทีเสียงดังสนั่นหวั่นไหว โดยมุ่งไปตู้โชว์ทอง ตนตกใจรีบหลบไปหลังร้านเมื่อตั้งสติได้ก็คว้าปืนพกขนาด 11 มม.ออกมายิงสวนจากหลังร้าน โดยระหว่างนั้นนายเอถือกระบองข้ามตู้ไปตีเข้าที่กระจกเพื่อชิงทอง แต่ตู้ไม่แตก นายปาล์มจึงใช้ปืนกระหน่ำยิงจนหมดลูกโม่ พอตนยิงสวนออกมา 2 นัด ทำให้คนร้ายซึ่งกำลังกวาดทองตกใจและรีบวิ่งหนีออกไป ตนตัดสินใจวิ่งตามคนร้ายพร้อมกับรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ จนสามารถจับกุมตัวได้ดังกล่าว

ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.เปิดเผยว่า หลังจากคนร้ายก่อเหตุ ทางตำรวจ สน.บางเขน ก็รีบนำกำลังมาทันที ทำให้จับกุมคนร้ายได้ทั้ง 2 คน และยังยึดรถ จยย. คนร้าย ได้ 1 คัน อาวุธปืนพก ขนาด .38 ของคนร้ายได้อีก 1 กระบอก ยึดทองคำของกลาง เป็นเลสข้อมือ 21 เส้นหนัก 21 บาท มูลค่า 5 แสนกว่าบาท ซึ่งต้องขอบคุณทาง สน.บางเขน ที่ทำงานได้เร็วและจับกุมคนร้ายได้อย่างทันท่วงที ซึ่งตนได้มอบเงินสด 5,000 บาท แก่ชุดจับกุมทั้งสายตรวจและสายสืบ ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายเอ เคยถูกจับกุมคดีเสพยาเสพติดที่ สน.บางเขนเมื่อปี 2551 ด้วย

เบื้องต้นนายปาล์มให้การรับสารภาพ อ้างว่าไม่มีเงิน ที่ผ่านมาทำงานแปะโปสเตอร์ได้ค่าแรงวันละ 300 บาท ส่วนปืนนั้น รับจำนำมาในราคา 2,000 บาท และจยย.คันดังกล่าวก็รับจำนำในราคา 3,000 บาท ก่อนเกิดเหตุ 1 วันได้ตระเวนดูลาดเลาที่ร้านดังกล่าว ก่อนตัดสินใจชวนนายเอร่วมชิงทรัพย์ ระหว่างที่กำลังชิงทรัพย์นั้น นายเอใช้กระบองตีที่ตู้แต่ไม่แตก ตนจึงยิงเข้าใส่กระจก คาดว่ากระสุนอาจไปเข้าที่หลังของนายเอ พอเจ้าของร้านยิงสวน ด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งหนีออกมาโดยไม่ได้หยิบทองไปแต่อย่างใด ทั้งนี้ตนไม่มีเงินและยากจนมาก อยากกินไก่เคเอฟซีสักครั้ง โดยอยากขอโทษเจ้าของร้านว่าไม่ได้มีเจตนาจะยิงใส่ แค่ต้องการยิงใส่ร้านทอง และก็โดนกระสุนจากในร้านแฉลบเข้าที่คิ้วข้างซ้ายด้วย

เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและยานพาหนะ พยายามฆ่าและพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้จากการสืบสวนพบว่านายปาล์มมีหน้าที่คุมบ่อนอยู่ย่านคันนายาว และอาวุธปืนและจยย.มีผู้เล่นการพนันเสียมาวางจำนำไว้จึงนำมาใช้ก่อเหตุ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้รวดเร็วครั้งนี้ เนื่องจากขณะเกิดเหตุ บริเวณนั้นมีตำรวจบ้านอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุพอดี จึงทำให้สามารถประสานแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันเวลา ทั้งยังให้ข้อมูลเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีไป จึงสามารถทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายได้โดยละม่อม

 

Credit:  เดลินิวส์

แบ่งปันข่าวสาร Like & Share ให้ด้วยนะค่ะ