แม่อายุน้อยลง และการคลอดบุตรมีอัตราตายสูงขึ้น

แม่อายุน้อยลง  การคลอดบุตรแล้วตายเพิ่มมากขึ้น

ปัจจุบันอัตราการมีบุตรของวัยรุ่นไทยสูงขึ้น  แต่วัยรุ่นเหล่านี้ไม่มีวุฒิภาวะเรื่องการเลี้ยงดูบุตร  บ้างก็เคยทำแท้ง  บ้างก็กลัวการคลอดบุตร  จึงทำให้ปัญหาการคลอดบุตรมีอัตราตายสูงขึ้นกว่าเดิม  จึงเป็นปัญหาของสังคมที่น่าหวั่นวิตกเป็นอย่างมาก

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 ก.ค. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานแถลงข่าว “แม่มีสุข ลูกแข็งแรง Happy Mom Healthy Baby” โดยกล่าวว่า กทม.ได้ให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพมารดาและทารกหลังคลอดเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากการเลี้ยงดูที่ดีตั้งแต่จุดเริ่มต้นของทารกซึ่งส่งผลให้ทารกมีพัฒนาการสมวัยและเจริญเติบโตเป็นเยาวชนที่มีคุณภาพในอนาคต ทั้งนี้จากรายงานโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร ปี 2554 พบว่ามีจำนวนมารดาที่คลอดทั้งหมด 15,675 ราย เป็นมารดาที่มีบุตรคนแรกเมื่ออายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 2,050 ราย คิดเป็นร้อยละ 13 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 10 มีจำนวนทารกคลอดทั้งหมด 15,763 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นเด็กเกิดแล้วเสียชีวิต 64 ราย เป็นเด็ก ที่น้ำหนักแรกเกิดต่ำกว่า 2,500 กรัม จำนวน 1,366 ราย คิดเป็นร้อยละ 8.7 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 7 ดังนั้น กทม.จึงพัฒนาระบบส่งต่อเพื่อให้บริการสุขภาพที่เป็นมาตรฐานสากลและเท่าเทียมกัน แก่มารดาและทารกหลังคลอด ป้องกันภาวะเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงดูบุตร เช่น มารดามีการติดเชื้อที่แผลฝีเย็บหรือแผลผ่าตัด การอักเสบของเต้านม เป็นต้น

สำหรับการดำเนินการ กทม.จะเชื่อมประสานการดำเนินงานดูแลมารดาและทารกตั้งแต่ในครรภ์จนถึงหลังคลอดระหว่างศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักอนามัย กับโรงพยาบาลในสังกัดสำนักการแพทย์ และโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชนอื่น ๆ โดยมีสำนักอนามัยเป็นศูนย์ส่งต่อมารดาและทารกหลังคลอด เป็นหน่วยรับข้อมูลจากโรงพยาบาล และส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการสาธารณสุข ให้ดำเนินการเยี่ยมบ้านและให้บริการสุขภาพแก่มารดาและทารกหลังคลอด ภายใน 6 สัปดาห์อย่างครบวงจร ภายใต้แนวคิด “จากโรงพยาบาลสู่บ้านอย่างอบอุ่นและปลอดภัย” รวมทั้งติดตามผลเฝ้าระวัง โดยเฉพาะในกลุ่มที่มี ภาวะเสี่ยงจะติดตามเยี่ยมหลังจากออกจากโรงพยาบาลภายใน 7 วัน เช่น มารดามีภาวะคลอดที่ผิดปกติ มีประวัติการตั้งครรภ์เสี่ยง ทารกคลอดก่อน 37 สัปดาห์ มีภาวะตัวเหลือง พิการแต่กำเนิด ส่วนกลุ่มปกติ จะติดตามเยี่ยมภายใน 14 วัน โดยพยาบาลจะดูแลสุขภาพมารดาและทารก ให้ภูมิคุ้มกันโรค สอนวิธีการเลี้ยงดูบุตร สนับสนุนอาหารเสริมแก่ทารกที่มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ มอบชุดของขวัญเด็กแรกเกิด โดยมีพยาบาลเป็นพี่เลี้ยงในการให้คำปรึกษาจนเข้าสู่ระบบบริการส่งเสริมสุขภาพของโรงพยาบาลและศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้งนี้กทม.จะดูแลสุขภาพมารดาและทารกหลังคลอดที่ส่งต่อจากโรงพยาบาลทุกแห่งในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยไม่เลือกปฏิบัติว่าเป็นผู้มีสัญชาติไทยหรือต่างด้าว.

 

Credit:  เดลินิวส์

แบ่งปันข่าวสาร Like & Share ให้ด้วยนะค่ะ