เอสเอ็มอีแบงก์กับออมสินอาจรวมกัน หลังหนี้เพิ่มไม่หยุด

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เสนอแผนควบรวมเอสเอ็มอีแบงก์เข้ากับธนาคารออมสิน หลังมีปัญหาหนี้เสียเพิ่มมากขึ้น โดยไม่มั่นใจว่าจะแก้ไขสถานการณ์เหล่านี้ได้

เมื่อวานนี้ (4 กุมภาพันธ์) แหล่งข่าวกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ทำการเสนอแผนการควบรวมธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ เข้ากับธนาคารออมสิน ให้กับ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงการคลังพิจารณา

 ทั้งนี้ เนื่องจากเอสเอ็มอีแบงก์มีปัญหาหนี้เสียที่เกิดจากการปล่อยสินเชื่อตามนโยบายรัฐจำนวนมาก และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นทุกวัน โดยล่าสุดหนี้เสียของเอสเอ็มอีแบงก์อยู่ที่ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท จากหนี้ทั้งหมด 9.7 หมื่นล้านบาท เป็นหนี้ที่คาดว่าจะแก้ไขได้ 1หมื่นล้านบาทเท่านั้น ที่เหลืออีกประมาณ 3 หมื่นล้านบาท เป็นหนี้ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ และต้องดำเนินการฟ้องร้องต่อไป

นอกจากนี้ สศค. ยังได้ระบุในแผนการว่า หากปล่อยให้เอสเอ็มอีแบงก์ดำเนินการแก้ปัญหาด้วยตัวเองต่อไป หนี้เสียก็ยังอยู่ในระดับสูงที่ 40-50% ของหนี้ทั้งหมดต่อไป จะทำให้เป็นภาระงบประมาณอีกจำนวนมากในการเข้าไปเพิ่มทุนเพื่อแก้ปัญหาหนี้เสียและสร้างความแกร่งให้กับธนาคาร

สำหรับการให้เอสเอ็มอีแบงก์ไปควบรวมกับธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นสถาบันการเงินของรัฐที่มีความเข้มแข็ง มีสินทรัพย์ถึง 2 ล้านล้านบาท และมีสินเชื่อกว่า 1 ล้านล้านบาท มีหนี้เสียเพียง 0.9% ของหนี้ทั้งหมดเท่านั้น หากจะมีหนี้เสียเพิ่มจากการควบรวมกับเอสเอ็มอีแบงก์อีก 3-4 หมื่นล้านบาท ก็จะทำให้หนี้เสียของธนาคารออมสินเพิ่มขึ้นเป็น 1.2% ของหนี้ทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่ต่ำมาก

 โดยขณะนี้เอสเอ็มอีแบงก์ไม่ได้เร่งกระบวนการสรรหากรรมการผู้จัดการคนใหม่ เพื่อรอความชัดเจนจากกระทรวงการคลังเรื่องการให้ไปควบรวมกับธนาคารออมสิน ซึ่งหากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเห็นชอบ ก็ไม่จำเป็นต้องสรรหากรรมการผู้จัดการคนใหม่

ด้านนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งกำกับดูแลเอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวว่า คณะกรรมการฟื้นฟูเอสเอ็มอีแบงก์จะเสนอแผนฟื้นฟูมาให้พิจารณาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่เห็นส่งมา ซึ่งจะต้องสอบถามว่ามีปัญหาอะไรและจะสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาโดยการให้เข้าไปควบรวมกับธนาคารออมสินนั้น โดยส่วนตัวเห็นว่า ควรให้เอสเอ็มอีแบงก์แก้ปัญหาไปก่อนว่าทำได้ตามแผนหรือไม่ หากไม่ได้ก็ต้องมาพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการแก้ไขด้วยแนวทางไหนต่อไป