อีก 15 ปี ไทยอาจเกิดวิกฤตพลังงาน

นายพงษ์ดิษฐ  พจนา  ผู้ช่วยผู้ว่าการกิจการสังคมและสิ่งแวดล้อม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. กล่าวขณะนำคณะสื่อมวลชมเยี่ยมชมโรงไฟฟ้าถ่านหินแบบเปิดมัตสึอุระ ที่เมืองฟูกุโอกะ ประเทศ ญี่ปุ่น ว่า

ปัจุบันญี่ปุ่นมีผู้ผลิตไฟฟ้า 10 บริษัท ซึ่งแบ่งตามพื้นที่ให้บริการ มีกำลังการผลิตรวม 150,000 เมกะวัตต์ต่อวัน ทั้งโรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติเป็นต้น โดย 1 ใน 3 เป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่สามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้ เช่น โรงไฟฟ้าถ่านหินมัตสึอุระ เป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินแบบเปิด เป็นเทคโนโลยีสะอาดสามารถดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดี

ในส่วนของประเทศไทย หากยังไม่สามารถหาข้อสรุปว่าพลังงานหลักที่จะนำมาผลิตไฟฟ้าจะมาจากชนิดใด จะเกิดวิกฤตพลังงานแน่นอน เนื่องจากภายใน 15-20 ปีข้างหน้า แหล่งเชื้อเพลิงในอ่าวไทยจะหมดไป ไทยจึงจำเป็นต้องหาพลังงานอื่น ๆ มาช่วยผลิตไฟฟ้า หากประเทศไทยไม่หาแหล่งผลิตพลังงานใหม่เพิ่มเติม และยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ จะเกิดความเสี่ยงสูงและผู้ใช้ไฟฟ้าต้องจ่ายค่าไฟแพงขึ้น

โดยปัจจุบันภายในประเทศทั้งภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงถึง  24,000 เมกะวัตต์ต่อวัน ขณะที่ กฟผ. มีกำลังการผลิตได้ประมาณ 31,440 เมกะวัตต์ต่อวัน  ซึ่งความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าสูงขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม  ปัจจุบัน กฟผ. สามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียงร้อยละ 40 ของการผลิตไฟภาพรวมในประเทศ จากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน 9 แห่ง และจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ 7 แห่ง ส่วนที่เหลือจะเป็นจากโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดใหญ่ หรือ IPP ขนาดเล็ก  หรือ SPP แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ จึงจำเป็นต้องซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านทั้งจากสหภาพพม่า  และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ดั้งนั้นต้องการให้ทุกฝ่ายในประเทศมาทำความเข้าใจร่วมกันในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า เพื่อลดการพึ่งพาจากประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต

Credit by Mthai

แบ่งปันข่าวสาร Like & Share ให้ด้วยนะค่ะ