อาหารเป็นพิษ หามเด็กกว่า 69 นักเรียน เข้าโรงพยาบาล

หามเด็กนักเรียนกว่า 69 คนเข้าโรงพยาบาล

หามเด็กนักเรียนกว่า 69 คนเข้าโรงพยาบาล

[gn_highlight bg=”#fcff99″ color=”#000000″]อาหารเป็นพิษ หามเด็กว่า 69 นักเรียน รร.ประชานิเวศน์ เข้าโรงพยาบาล[/gn_highlight]

อากาศช่วงนี้เปลี่ยนแปลงบ่อย  จึงทำให้การกินต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก  เพราะบางทีอาหารก็บูด  หรือเสียไว  โดยที่เราไม่สามารถกำหนดได้เลย  จึงได้ทำให้หลายๆ คน ต้องท้องเสียเพราะอาหารอยู่บ่อยครั้ง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 ก.ค. ที่โรงเรียนประชานิเวศน์ ซอย10 ถนนเทศบาลรังรักษ์เหนือ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. มีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่1- 6 จำนวน 69 คน เกิดอาการอาหารเป็นพิษนำส่งที่โรงพยาบาลกลาง โดยอาการของเด็ก มีทั้งอาเจียน ท้องเสีย เเละ ปวดหัว เด็กที่อาการหนักสุดคือ ท้องเสียจนหมดแรง แพทย์ต้องให้น้ำเกลือรอดูอาการ

ด.ช.ภูเบศธ์ ผลิตกุล นักเรียนชั้น ป.4/7 กล่าวว่า หลังจากทำกิจกรรมหน้าเสาธงเสร็จในตอนเช้า ตนเองได้ดื่มนมของโรงเรียนพร้อมกับเพื่อนก่อนเข้าเรียน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองไม่มีอาการท้องเสีย เเต่วันนี้หลังจากที่ดื่มนมเสร็จได้ประมาณ 1 ชม. ก็รู้สึกมีอาการแปลกๆ คือมวลท้องเเละคลื่นไส้ จนต้องบอกคุณครูเเละเดินมาพักที่ห้องพยาบาล

ด.ญ.ชมพูนุช นิคมศาสตร์ นักเรียนชั้น ป.6/5 กล่าวหลังจากกลับจากโรงพยาบาลกลางว่า มีเพื่อนหลายคนกินนมเเต่ หลายคนก็ไม่ได้กินนม รวมทั้งตน เเต่อยู่ๆ ก็เกิดอาการปวดท้อง คลื่นไส้จนอาเจียร จนทางโรงเรียนต้องพาไปโรงพยาบาล ซึ่งคุณหมอให้ยาเเก้ไข เเก้คลื่นไส้ ยาฆ่าเชื้อเเละเกลือแร่

นางอำไพ จันทรปัญญาศิลย์ ผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้านักเรียนได้ทำกิจกรรมหน้าเสาธงก่อนเข้าห้องเรียนได้มีนักเรียนดื่มนมของโรงเรียนเป็นประจำก่อนเข้าห้องเรียน ต่อมามีอาจารประจำชั้นได้มาแจ้งกับตนเองว่ามีนักเรียนท้องเสียตนเอง จึงได้ให้อาจารประจำชั้นแยกเด็กที่มีอาการดังกล่าวมารวมกันที่ห้องพยาบาล และได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ กทม. เพื่อมารับตัวเด็กนักเรียนไปส่ง รพ.กลาง และได้ประสานกับ รพ.ไว้รอรับเด็กนักเรียนดังกล่าว เบื้องต้นได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ว่ามีเด็กที่มีอาการหนักต้องรอดูอาการทั้งหมด 3 คน และช่วงบ่ายเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ได้เดินทางกับมายังรพ.ส่วนนมโรงเรียนนั้นมีทางเจ้าหน้าที่นำมาส่งให้กับโรงเรียนทุกเช้าลักษณะวันต่อวัน ซึ่งสาเหตุของอาการต้องรอให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุต่อไป

 

Credit:  มติชน

แบ่งปันข่าวสาร Like & Share ให้ด้วยนะค่ะ