หมอดูหื่น ลวงสาวสะเดาะเคราะห์

หมอดู,สะเดาะเคราะห์

หมอดูหื่น ข่มขืนสาวอ้างสะเดาะเคราะห์ เหยื่อเร่งแจ้งความเพื่อดำนเนิคดี

หมอดูหื่น ลวงสาวสะเดาะเคราะห์

ทุกวันนี้อาชีพที่เราเห็นอยู่ก็ใช่ว่าจะทำกันอย่างสุจริต  บางคนก็แอบอ้าง  โดยใช้ความทุกข์ใจของผู้เสียหาย  เพื่อเป็นการหลอกลวง  ให้ได้ผู้เสียหาย  โดยส่วนมากผู้เสียหายจะเป็นผู้หญิง  จึงทำให้คดีนี้เจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวัง  และเร่งสืบสวนเพื่อดำเนินคดี

เมื่อวันที่  11 ต.ค. ที่ สน.บวรมงคล พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.น.7  พร้อมด้วย พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผกก.สน.บวรมงคล พ.ต.ท.พิศณุ วิทยาภรณ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สุภาพ เพชรรัตน์ สว.สส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายภาคิน หรือ “โอ ธนวัสวัสวงษ์” อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ซอยเพชรเกษม 39/1 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชันที่ 776/2556 ลงวันที่ 8 ต.ค. 2556 ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่น ซึ่งมิใช่ภรรยาตนโดยหญิงอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และลักทรัพย์ โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านปิ่นเกล้า

พ.ต.อ.โชติวัฒน์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้รับคำร้องทุกข์จากผู้เสียหายเป็นหญิงสาวอายุประมาณ 20 ปี ว่าได้ไปตรวจดวงชะตากับนายภาคิน ซึ่งอ้างว่าเป็นหมอดูทางอินเทอร์เนต หลังจากพูดคุยกันแล้ว นายภาคินได้ออกอุบายให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชี 2,000 บาท และต่อมาได้นัดให้ออกไปพบที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นได้บอกผู้เสียหายว่ากำลังมีเคราะห์ ต้องทำพิธีสะเดาะเคราะห์ แต่ต้องหาที่เงียบๆ ลับตาคนเพื่อทำพิธี นายภาคินจึงได้ไปเปิดโรงแรมไว้ก่อนล่วงหน้า จากนั้นได้โทรนัดผู้เสียหายให้ไปเจอกันที่โรงแรม ระหว่างทีผู้เสียหายกำลังเดินทางนายภาคินก็จุดธูปในห้องของโรงแรมเพื่อสร้างบรรยากาศให้น่าเชื่อถือ เมื่อผู้เสียหายเดินทางมาถึงนายภาคินได้บอกให้ไปล้างหน้า สวดมนต์ก่อนเริ่มทำพิธี จากนั้นนำขี้ผึ้งมาทาที่ตัวของผู้เสียหาย แล้วใช้คำพูดหว่านล้อมให้ถอดเสื้อผ้าออกก่อนใช้กำลังข่มขืนผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่ และจะอาศัยจังหวะที่ผู้เสียหายเผลอขโมยเงินสดของผู้เสียหายไป

พ.ต.อ.โชติวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนให้ผู้เสียหายติดต่อนายภาคินไปเพื่อขอดูดวงอีกครั้ง แล้วนัดเจอกันที่หน้าห้างสรรพสินค้าย่านปิ่นเกล้า และเมื่อนายภาคินเดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเข้าจับกุม เบื้องต้นนายภาคินให้การรับสารภาพว่าทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง หลังก่อเหตุจะเปลี่ยนชื่อนามสกุลไปเรื่อยๆ เมื่อตรวจสอบบัญชีของนายภาคินพบว่ามีการโอนเงินเข้ามาเพื่อเป็นค่าดูดวง ครั้งละ 500-2,000 บาท

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า อยากฝากไปยังพี่น้องประขาชนว่าให้ระมัดระวังในการติดต่อกับบุคคลที่เราไม่รู้จักผ่านอินเทอร์เนต เพราะมีความเสี่ยงต่อการจะโดนหลอกลวง และหากผู้เสียหายรายใดจำได้ว่า เคยถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกลวงมาก่อน สามารถติดต่อแจ้งความเพิ่มเติมกับทาง สน.บวรมงคล ได้ตลอดเวลา

 

Credit:  เดลินิวส์

แบ่งปันข่าวสาร Like & Share ให้ด้วยนะค่ะ