สถานการณ์ความรุนแรงในอียิปต์ทวีความรุนแรงมากขึ้น

สถานการณ์ความรุนแรงในอียิปต์ทวีความรุนแรงมากขึ้น

[gn_highlight bg=”#b499ff” color=”#000000″]หลายประเทศเริ่มกังวลกับสถานการณ์ความรุนแรงในอียิปต์ที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังรุนแรง ล่าสุดก็มีตำรวจสังหารผู้ประท้วง 37 คน ก่อนที่ผู้ประท้วงจะสังหารตำรวจ 25 นาย ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้อียิปต์ถือเป็นประเทศที่น่ากลัว และอันตรายหากต้องเดินทางเข้าไป[/gn_highlight]

โดยนายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ได้ออกมาเปิดเผยว่า เขารู้สึกสลดใจต่อกรณีผู้ประท้วงกลุ่มภราดรภาพมุสลิม 37 ราย ถูกทางการสังหารเมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา และขอประณามการซุ่มสังหารตำรวจ 25 นาย ที่กระทำโดยฝ่ายผู้ประท้วง ระหว่างที่ตำรวจกลุ่มนี้กำลังเดินทางไปยังค่ายทหารในเมืองราฟาห์ ใกล้กับชายแดนอียิปต์-อิสราเอล เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมาด้วย สหประชาชาติหวังว่าผู้กระทำผิดคงจะได้รับการระบุตัวตนและถูกดำเนินคดีในที่สุด ตอนนี้ ถึงเวลาแล้วที่ทางการและกลุ่มผู้ประท้วงจะต้องรับผิดชอบร่วมกันในการยุติความรุนแรงที่ลุกลามบานปลายจนก่อให้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ในอียิปต์ ทั้งสองฝ่ายควรยุติความพยายามใช้ความรุนแรงและฟื้นคืนกระบวนการทางการเมืองโดยเร็ว และหลังจากนี้ อียิปต์จะต้องขยายพื้นที่ในการมีส่วนร่วมทางการเมืองให้แก่กลุ่มภราดรภาพมุสลิม เนื่องจากตอนนี้พวกเขาถูกจำกัดสิทธิทางการเมืองอยู่มาก

นอกจากนี้ นายบัน คี-มูน ยังเปิดเผยอีกว่า อดีตประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี ซึ่งเป็นประธานาธิบดีที่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ถูกโค่นล้มตำแหน่งโดยทหารเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา และถูกทหารควบคุมตัวอยู่ในขณะนี้นั้น ควรจะได้รับการปล่อยตัวหรือเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายอันโปร่งใส

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่านายโมฮัมเหม็ด บาดี ผู้นำทางจิตวิญญาณของกลุ่มภราดรภาพมุสลิมในอียิปต์ ได้ถูกทางการจับกุมตัวได้แล้วในกรุงไคโร หลังจากสมาชิกกลุ่มภราดรภาพมุสลิมหลายร้อยถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ สำหรับเหตุการณ์ความรุนแรงในอียิปต์ที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคมครั้งนี้ ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 900 ราย (ตามคำเปิดเผยของทางการ) โดยในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารไม่ต่ำกว่า 100 นาย

 

Credit:  Kapook