ยุโรปอ่วม เจอผู้ลี้ภัยล่องเรือเข้าประเทศวันละ 8,000 คน

         สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 58  ว่าสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอชซีอาร์ ) ออกรายงานเมื่อวันศุกร์ แสดงความวิตกกังวลต่อวิกฤติการไหล่บ่าเข้าสู่ยุโรปของผู้อพยพและผู้ลี้ภัย ว่าสถิติอยู่ที่ราว 8,000 คนต่อวัน โดยส่วนใหญ่เป็นชาวซีเรีย และล่องเรือมาขึ้นฝั่งที่กรีซ อย่างไรก็ตาม สถิติอาจเพิ่มมากขึ้นในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง หากสภาพอากาศยังดีในระดับนี้ต่อไป เนื่องจากจะส่งผลให้ทัศนวิสัยทางทะเลดี ขณะที่นายกรัฐมนตรีวิคเตอร์ ออร์บาน ผู้นำฮังการี กล่าวระหว่างเดินทางเยือนกรุงเวียนนา เมืองหลวงของออสเตรีย ว่าการที่รัฐบาลเร่งเสริมความแข็งแกร่งและความสูงของรั้วตลอดแนวชายแดนเพิ่มขึ้นเป็น 3.5 เมตร ส่งผลให้ผู้อพยพและผู้ลี้ภัยเปลี่ยนเส้นทางไปยังกรีซและกลุ่มประเทศในแถบคาบสมุทรบอลข่านที่รวมถึงโครเอเชียมากขึ้น ซึ่งประเทศเหล่านั้นควรเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับพรมแดนของตัวเองมากกว่านี้

          ด้านกระทรวงมหาดไทยของเยอรมนี ประเทศที่ต้องแบกรับภาระจากวิกฤติด้านมนุษยธรรมครั้งนี้มากที่สุด ออกรายงานซึ่งเป็นการตั้งข้อสังเกตว่า ราว 1 ใน 3 ของกลุ่มผู้อพยพและผู้ลี้ภัยซึ่งอ้างว่ามาจากซีเรีย และต้องการขอรับสิทธิ์พำนักในเยอรมนี อาจไม่ใช่ชาวซีเรียจริงตามที่อ้าง ขัดแย้งกับถ้อยแถลงของนายโทเบียส พาเท โฆษกของกระทรวงมหาดไทย ที่กล่าวว่ารัฐบาลยังไม่มีสถิติเรื่องสัญชาติของกลุ่มคนเหล่านี้อย่างชัดเจน ส่วนความขัดแย้งระหว่างโครเอเชียกับเซอร์เบียเริ่มมีสัญญาณของความคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น เมื่อโครเอเชียเปิดพรมแดนที่ติดกันอีกครั้ง หลังปิดชั่วคราวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อพยพและผู้ลี้ภัยข้ามพรมแดนมาจากเซอร์เบีย จนทำให้เกิด “สงครามน้ำลาย” ครั้งใหญ่ระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศ“

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ  :  เดลินิวส์