• Home »
  • ShowSlideAll »
  • พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 สำหรับเจ้าหนี้ ลูกหนี้
พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 สำหรับเจ้าหนี้ ลูกหนี้

พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 สำหรับเจ้าหนี้ ลูกหนี้

         พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 ระบุชัด ห้ามคนมีสีรับจ๊อบทวงหนี้เด็ดขาด ฝ่าฝืนเจอโทษหนัก จำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เริ่มบังคับใช้วันที่ 2 กันยายนนี้

         ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา มีการประกาศราชกิจจานุเบกษา เรื่อง พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2558 โดยให้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนด 180 วัน นับแต่วันประกาศ คือ ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2558 เป็นต้นไป

         ทั้งนี้ หากพิจารณา พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 จะพบว่า มีสาระสำคัญที่บรรดาเจ้าหนี้ และลูกหนี้ ควรจดจำให้ดี ดังนี้

ตามมาตรา 5 ระบุไว้ว่า บุคคลใดจะประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ ต้องจดทะเบียนการประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ต่อนายทะเบียน

ตามมาตรา 8 ระบุไว้ว่า ในการทวงถามหนี้นั้น ห้ามทวงกับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ลูกหนี้ เว้นแต่เป็นบุคคลที่ลูกหนี้ระบุไว้

ตามมาตรา 9 ระบุไว้ว่า การติดต่อเพื่อทวงถามหนี้ไปยังบุคคล สามารถติดต่อได้ในเวลา 08.00-20.00 น. ในวันจันทร์ถึงศุกร์ และวันหยุดราชการสามารถติดต่อตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.

ตามมาตรา 11 ระบุไว้ว่า ห้ามข่มขู่ ใช้ความรุนแรง หรือการกระทําอื่นใดที่ทําให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกายชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น

ตามมาตรา 13 ระบุไว้ว่า ห้ามผู้ทวงถามหนี้กระทําการทวงถามหนี้ในลักษณะที่ไม่เป็นธรรมแก่ลูกหนี้ อาทิ การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ เกินกว่าอัตราที่คณะกรรมการประกาศกําหนด

ตามมาตรา 14 ระบุไว้ว่า ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐ ไปทวงถามหนี้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง

ตามมาตรา 39 ระบุไว้ว่า หากมีบุคคลที่ฝ่าฝืนไม่ไปจดทะเบียน จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ตามมาตรา 40 ระบุไว้ว่า ในกรณีที่เป็นเรื่องการทวงหนี้อันเป็นเท็จ จะระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ตามมาตรา 42 ระบุไว้ว่า หากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิด จะระวางโทษไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

        นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2558 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ร่วมกับสมาพันธ์ผู้บริหารหนี้สถาบันการเงินแห่งประเทศไทย จัดสัมมนากฎหมายใหม่ “ทวงหนี้อย่างไร…ไม่ติดคุก” ที่ห้องประชุมทองใหญ่ อาคารศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ทั้งนี้ ภายในงาน นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความฯ กล่าวว่า พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 เป็นการให้ความคุ้มครองประชาชนที่เป็นลูกหนี้ ไม่ให้ถูกกระทบกระเทือนจากการทวงหนี้ทั้งนอกระบบและในระบบ ทั้งยังเป็นการคุ้มครองผู้ค้ำประกัน รวมถึงการป้องปรามการทวงถามหนี้ที่เกินความเป็นจริง โดยเฉพาะการข่มขู่ หรือการยึดทรัพย์สินของลูกหนี้นอกระบบอีกด้วย

       อย่างไรก็ดี เมื่อ พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 มีผลบังคับใช้ จะส่งผลให้บรรดาข้าราชการอาทิ ทหาร รวมถึงตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ไม่สามารถรับงานติดตามทวงหนี้ได้อีกต่อไป เพราะถือว่า เป็นการขัดต่อกฎหมายฉบับนี้ หากใครฝ่าฝืนมีโทษจำคุกถึง 5 ปี ปรับถึง 5 แสนบาท

ภาพจาก เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา , เฟซบุ๊ก สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์

ขอขอบคุณรูปภาพ  :  loantipsforu.blogspot.com

แบ่งปันข่าวสาร Like & Share ให้ด้วยนะค่ะ