พบโรคมือเท้าปากในอีสานเกือบพันคน

พบโรคมือเท้าปากในอีสานเกือบพันคน

ก็นับถือว่าตอนนี้ได้แพร่ไปหลายพื้นที่  หลายจังหวัดแล้ว  ทำให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ  เพราะสายพันธุ์ใหม่นั้นอากาศมีน้อย  แต่ถือว่าตายได้เร็วมาก  จึงทำให้น่าเป็นห่วงมากในขณะนี้  ขณะที่ทุกโรงเรียนที่มีเด็กเล็กก็จะตรวจสุขภาพเด็กก่อนเข้าเรียน  เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ติดต่อกัน  

วันนี้ ( 24 ก.ค.) นายแพทย์ธีรวัฒน์ วลัยเสถียร ผอ.สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคมือเท้าปากในขณะนี้ จากการวิเคราะห์พบว่าแนวโน้มการป่วยจะมีต่อเนื่องไปอีก 1-2 เดือนข้างหน้า เนื่องจากยังอยู่ในช่วงฤดูฝนและช่วงเปิดเทอม ทั้งนี้ในส่วนของพื้นที่สาธารณสุข เขต 14 ประกอบด้วย นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ตั้งแต่ต้นปี จนถึงขณะนี้มีผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 1,029 ราย อัตราป่วยสูงสุดอยู่ที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งแยกเป็นรายจังหวัด คือ  นครราชสีมา 478 ราย สุรินทร์  218 ราย  ชัยภูมิ 172 ราย  และบุรีรัมย์ 161 ราย ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยในแต่ละจังหวัดมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในเขตอำเภอเมือง เนื่องจากมีประชากรจำนวนมากมาอยู่รวมกัน การแพร่กระจายของเชื้อโรคมือเท้าปากมีโอกาสเกิดได้มาก
ผอ.สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 กล่าวอีกว่า จังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษในขณะนี้ได้แก่จังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายแดนประเทศกัมพูชา คือ จ.สุรินทร์ และ จ.บุรีรัมย์ เนื่องจากในกัมพูชาเกิดการแพร่ระบาดในเด็กเป็นจำนวนมาก โดยในพื้นที่ จ. สุรินทร์ ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษในเขต อ.ปราสาท อ.สังขะ อ.บัวเชด และ อ.พนมดงรัก ซึ่งมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาก และอีกหนึ่งจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับชายแดนกัมพูชา คือ จ.บุรีรัมย์ ได้แก่ อ.ละหานทราย และ อ.บ้านกรวด ข้อมูลพบว่าในเดือนกรกฎาคมมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นใน 2อำเภอนี้ เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งเตือนให้มีการเฝ้าระวังและควบคุมโรคอย่างใกล้ชิด ทั้งศูนย์เด็กเล็ก และโรงเรียนระดับอนุบาล พร้อมเตรียมทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) ลงพื้นที่เพื่อควบคุมโรคในทันที หากมีการระบาดของโรคเกิดขึ้น และที่สำคัญ คือ หากพบว่ามีเด็กป่วยด้วยโรคมือ เท้า ปาก ในห้องเรียนเกิน 2 คน ให้ปิดห้องเรียนนั้น แล้วทำความสะอาด หากพบผู้ป่วยในระดับชั้นเรียนเดียวกันเกิน 3 คน ต้องปิดการเรียนการสอนทั้งระดับชั้น และหากพบผู้ป่วยกระจายในระดับชั้นเรียนต่างๆเกิน 5 ห้องเรียน จะต้องปิดสถานศึกษาชั่วคราว ประมาณ 5-7 วัน เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดกลุ่มใหญ่

Credit:  เดลินิวส์