• Home »
  • ข่าวทั่วไป »
  • ผอ.ร.ร.บดินทรฯ เคลียร์ปัญหาจบ นักเรียนยอมขอโทษให้เรื่องทุกอย่างจบ

ผอ.ร.ร.บดินทรฯ เคลียร์ปัญหาจบ นักเรียนยอมขอโทษให้เรื่องทุกอย่างจบ

ภาพประกอบ (ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข่าว)

ภาพประกอบ (ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข่าว)

ลูกบดินทรฯ ปลุกม็อบกว่า 500 คน ต้อนรับ “ มงคลกิตต์ “ ในวันประชุมผู้ปกครอง นร.รอบบ่าย ด้าน “มงคลกิตติ์ “ แห่เชิดสิงโต พานร.ไปส่ง กลับโดนปิดประตูใส่ เดือดร้อนตำรวจต้องช่วยเจรจาก่อนยอมถอนทัพกลับ ขณะที่ คณะนร.รอบบ่าย นำพวงมาลัยไหว้ขอขมา ผอ.ร.ร. 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศิษย์เก่าและนักเรียนปัจจุบัน รวมถึงผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชา (สงห์ สิงเสนี)ประมาณ 500 คนได้เดินทางมายังโรงเรียนเวลาก่อน 8 .00 น. เนื่องจากโรงเรียนกำหนดให้มีการประชุมผู้ปกครองนักเรียนรอบบ่ายที่รับไว้จำนวน 52 คน โดยสมาคมนักเรียนเก่าโรงเรียนบดินทรฯ และเครือข่ายผู้ปกครองฯ ได้จัดทำป้ายไวนิวกว่า 200 แผ่นมาติดไว้ทั่วบริเวณโรงเรียน เพื่อให้กำลังใจครูและโรงเรียน มีข้อความต่าง ๆ อาทิ ลูกบดิทรไม่ปล่อยให้ครูเดียวดาย หรือ สร้างความดีกันไว้ ให้ใคร ๆ เห็นคุณค่า เพื่อโรเรียนบดินทรเดชา ขณะที่นักเรียนบางส่วน คาดผ้า กระดาษมีน้ำเงินซึ่งเป็นสีของโรงเรียนไว้ที่ศีรษะด้วย
จากนั้นเวลา 9.00 น. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นของชาติ (ภตช.) ได้นัดรวมตัวกับนักเรียนและผู้ปกครองรอบบ่ายจำนวนหนึ่งที่บริเวณ ทรี สแคว หน้าหมู่บ้านบดินทร์รักษาเพื่อพานักเรียนเข้ามาส่งในโรงเรียน โดยมีรถปราศัยและขบวนเชิดสิงโตนำคณะมาด้วย แต่ได้รับการต่อต้านจากนักเรียนศิษย์เก่าและนักเรียนโดยมีการปิดประตูไม่ยอมให้นายมงคลกิตติ์เข้ามา สุดท้ายนายสิงห์ทอง ทองบัวชุม ที่ปรึกษานายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยร.ต.อ. พงษ์ศักดิ์ เอี่ยมอ่อน รอง สวป. สน.วังทองหลาง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 10 นาย จึงได้ไปดักคณะของนายมงคลกิตติ์ไว้ก่อนถึงประตูโรงเรียน และไปเจรจากับนายมงคลกิตติ์ ใช้เวลาเจราประมาณ 15 นาที นายมงคลกิตติ์จึงยอมกลับไป ขณะที่ทางโรงเรียนย่อมเปิดประตูให้นักเรียนรอบบ่ายเดินเข้ามาในโรงเรียน
นายโสภณ พิฆเนศวร ศิษย์เก่ารุ่น 16 และผู้ปกครองนักเรียนรุ่นปัจจุบัน กล่าวว่า ทางนักเรียนศิษย์เก่าและผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชาฯยอมรับทุกอย่าง แต่ขออย่างเดียวคือ ไม่ให้นายมงคลกิตติ์มาวุ่นวายกับเรื่องของดรงเรียนอีก พวกเราต้องการให้ทุกอย่างจบเสียที ให้ทุกอย่างกลับสู่ความสงบ นักเรียนทุกคนจะได้เริ่มเรียนหนังสือ แต่ถ้านายมงคลกิตติ์ ยังเข้ามาวุ่นวายอยู่ เรื่องก็จะไม่จบ โรงเรียนก็ไม่สงบ ดังนั้น นายมงคลกิตติ์ ต้องเลิกยุ่งและปล่อยให้โรงเรียนบริหารจัดการเอง ซึ่งทางโรงเรียนตระหนักในเรื่องนี้ดี และมีแผนจัดการศึกษารองรับไว้แล้ว ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนรอบบ่ายกับนักเรียนปกตินั้น ขอให้สังคมวางใจ โรงเรียนอยู่มานาน ศิษย์เก่าทุกรุ่นก็รักกันดีเพราะฉะนั้นไม่ว่าปัญหาจะหนักอย่างไร ลูกบดินทรเดชาฯก็จะละลายพฤติกรรมกันได้ ต่อไปทุกฝ่ายก็จะไม่พูดเรื่องอดีตกันอีก เพื่อให้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้ แต่ของให้คนอื่นเลิกสร้างความแตกแยก

ต่อมาเวลา 11.00 น. นายสุวัฒน์ วิวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบดินทรเดชาฯ ได้ประชุมผู้ปกครอง นักเรียนรอบบ่าย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากประชุมเสร็จ นักเรียนรอบบ่ายได้เข้าแถวนำพวงมาลัย ไปไหว้ขอขมานายสุวัฒน์ และครู โดยนายสุวัฒน์ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า โรงเรียนได้จัดให้นักเรียนรอบบ่ายทุกคน เรียนต่อสายศิลป์คำนวณ เพราะศักยภาพของโรงเรียนตอนนี้ ไม่สามารถ จัดการเรียนการสอนในสายอื่นให้นักเรียนรอบบ่ายได้ อุปสรรค์สำคัญอยู่ที่ครู เพราะครูบางคนมีชั่วโมงการสอนสูงถึง 20 คาบต่อสัปดาห์อยู่แล้ว ไม่สามารถแทรกตารางสอนเพิ่มอีก คั้นจะเอาครุใหม่มาสอนนักเรียนรอบบ่ายก็เกรงจะถูกครหาว่าจัดการเรียนการสอนให้เด็กกลุ่มนี้แตกต่างจากนักเรียนปกติ

อย่างไรก็ตาม ในภาคเรียนที่ 2 ถ้าทุกอย่างลงตัว เด็กอาจปรับย้ายสายได้ เพราะโดยปกติที่นี่ก็ให้นักเรียนย้ายสายการเรียนได้ ถ้ารู้สึกว่าสายการเรียนเดิมไม่เหมาะกับตัวเอง หรือกรณีที่เด็กรอบบ่ายอยากเรียนสายวิทย์-คณิต อาจใช้วิธีการเลือกวิชากลุ่มวิทยาศาสตร์เป็นวิชาเลือกเพิ่มเติมแทน ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับศักยภาพของเด็กด้วย ส่วนเรื่องการปรับตัวของนักเรียนนั้น เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องที่ลำบาก เพราะเด็กมีเพื่อนและรุ่นพี่ที่รู้จักอยู่แล้ว ขณะเดียวกันได้จัดอาจารย์ที่ปรึกษาให้นักเรียนรอบบ่าย ซึ่งเป็นอาจารย์ที่จบมาทาวงจิตวิทยาและเป็นหัวหน้างานแนะแนวของโรงเรียน เพื่อค่อยให้คำปรึกษากับเด็กได้ 

ด้านนายสิงห์ทอง กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการศธ.ให้กำชับกับทางโรงเรียนในการดูแลเด็กกลุ่มนี้ แต่อยากฝากไปถึงคนที่ออกมาเคลื่อนไหวว่า อย่าเอานักเรียนมาเป็นเครื่องหาผลประโยชน์ เพราะขณะนี้ ครู นักเรียน รวมถึงศิษย์เก่าของโรงเรียนก็บอบช้ำมากแล้ว ดังนั้นขอให้ยุติ อย่าเอานักเรียนมาเป็นเหยื่ออีก

“ ไม่อย่าให้นายมงคลกิติ์ไปอ้างชื่อบุคคลสำคัญของประเทศมากดดันโรงเรียน เพราะเหตุการณ์จะบานปลาย ส่วนที่นายมงคลกิตติ์ อ้างว่าเป็นสายตรงของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีนั้น ขณะครูโรงเรียนบดินทรฯได้เข้านายกที่ทำเนียบรัฐบาลและได้สอบถามนายกในเรื่องนี้ ซึ่งนายกฯก็ปฏิเสธว่าไม่เคยรู้จักนายมงคลกิตติ์มาก่อน” นายสิงห์ทองกล่าวและว่า นายมงคลกิตติ์ เคยลงเลือกตั้งในนามพรรคการเมือง 2 พรรคมาก่อนแต่สอบตก

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 รายหนึ่ง กล่าวว่า อยากเรียนร้องให้นายมงคลกิตติ์ ยุติ เลิกเข้ามาวุ่นวายกับโรงเรียน และให้เปิดแถลงข่าวขอโทษ เพราะที่ผ่านมานายมงคลกิตติ์พูดจาให้โรงเรียนเสียหาย ทั้งที่หลายเรื่องของไม่ใช่เรื่องจริง เช่นข้อมูลรายชื่อนักเรียนที่มีตัวภาอังกฤษต่อท้าย ซึ่งนายมงคลกิตติ์ได้นำไปมอบให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และอ้างว่าตัวภาษาอังกฤษเป็นโค้ด แยกประเภทเด็กฝากและนักเรียนที่จ่ายเงินแป๊ะเจี๊ยะ แต่จริงๆแล้วตัวอักษรที่ต่อท้ายรายชื่อ ไม่ใช่โค้ดเด็กฝาก หรือแป๊ะเจี๊ยะ แต่เป็นโค้ดแสดงสายการเรียนของเด็กแต่ละคน

ขณะที่นักเรียนชั้นม.6 อีกรายหนึ่งกล่าวว่า ถ้านักเรียนรอบบ่ายทำตัวดีขึ้นและตั้งใจเรื่องมากขึ้น ให้คุ้มกับโอกาสที่ได้เข้ามา ก็น่าจะทำให้ความรู้สึกขอวงนักเรียนคนอื่นๆและบรรยากาศในโรงเรียนดีขึ้น แต่จริงๆแล้วนักเรียนบดินทรเดชาฯ ไม่เห็นด้วยกับมาตรการรับรออบบ่อย เพราะนั้นจะเป็นการเป็นสร้างบรรทัดฐานว่าการประท้วงจะทำให้ได้ทุกอย่าง กติกาไร้ความหมาย โดยส่วนตัวเห็นว่า มาตรการรอบบ่ายไม่ใช่เรื่องของการให้โอกาส เพราะจริงๆแล้วโรงเรียนได้ให้โอกาสนักเรียนที่เรียนอ่อน ได้มีโอกาสสอบคัดเลือกเข้ามาอีกครั้ง ซึ่งเจ้าตัวน่าจะใช้โอกาสให้เท่าๆกับคนอื่น

Credit by manager.co.th

แบ่งปันข่าวสาร Like & Share ให้ด้วยนะค่ะ