ปี 2556 ไข้เลือดออกระบาดเร็วและรุนแรง ตามสภาพอากาศ

ปี 2556 คาดว่าไข้เลือดออกระบาดรุนแรง

กระทรวงสาธารณสุข เตือนปี 2556 ไข้เลือดออกระบาดเร็วและรุนแรง เนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง โดยสั่งทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมเพื่อรับมือสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

วันนี้ (21 มกราคม) นพ.วิชัย สติมัย ผอ.สำนักงานโรคติดต่อโดยแมลง กรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวถึงสถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกว่า ในปี 2555 พบผู้ป่วย 76,351 ราย และมีผู้เสียชีวิต 82 ราย และคาดว่า เมื่อเข้าปี 2556 สถานการณ์จะน่าเป็นห่วงมากขึ้น เนื่องจากระหว่างวันที่ 1-14 มกราคม ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยแล้ว 1,079 ราย แต่ยังไม่พบผู้เสียชีวิต โดยภาคที่พบผู้ป่วยสูงสุด คือ ภาคใต้ อาทิ จ.สงขลา จ.กระบี่ จ.พัทลุง จ.พังงา รองลงมา คือ ภาคกลาง โดยเฉพาะกรุงเทพฯ

นพ.วิชัย ยังกล่าวอีกว่า ทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) คาดการณ์ว่าในปี 2556 จะพบผู้ป่วยสูงถึงประมาณ 1-1.2 แสนราย และเสียชีวิตประมาณ 100 ราย และทั้งที่ขณะนี้เป็นช่วงฤดูหนาว ไม่ใช่ช่วงฤดูฝนที่พบการระบาดของโรค ไข้เลือดออก แต่กลับมีรายงานตัวเลขผู้ป่วยแล้วกว่าพันราย โดยสาเหตุมาจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ทำให้เกิดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายที่ทำให้เกิดปัญหาการระบาดของโรคไข้เลือดออกเร็วกว่าปกติ ดังนั้น สธ. จึงเตรียมมาตรการเพื่อรับมือในเบื้องต้นด้วยการให้ความรู้ และจะขอความร่วมมือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ช่วยกันตรวจสอบและดูแลประชาชน รวมถึงการจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ประชาชนเข้าใจ
อย่างไรก็ตาม นพ.วิชัย ได้แนะนำวีธีสังเกตอาการของโรคไข้เลือดออก ที่มีลักษณะเฉพาะ 4 ประการ คือ

1. ไข้สูงลอย : ไข้ 39-40 มักมีหน้าแดง โดยมากไม่ค่อยมีอาการน้ำมูกไหลหรือไอ เด็กโตอาจมีอาการปวดเมื่อยตามตัว และปวดศีรษะ อาการไข้สูงมักมีระยะ 4-5 วัน

2. อาการเลือดออก : เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน เลือดออกในกระเพาะ โดยจะมีอาการอาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายดำ มีจุดเลือดออกตามตัว

3. ตับโต : อาการที่ตับมีขนาดบวมโตกว่าปกติจนสามารถคลำได้ ทั้งที่ ปกติตับจะซ่อนอยู่บริเวณชายโครง คลำไม่พบ

4. ความผิดปกติของระบบไหลเวียนเลือด หรือช็อก : มักจะเกิดช่วงไข้จะลด โดยผู้ป่วยจะมีอาการกระสับกระส่ายมือเท้าเย็น รอบปากเขียว อาจมีอาการปวดท้องมาก ก่อนจะมีอาการช็อก ชีพจรเบาเร็ว ความดันต่ำ