นาซ่าจับตาดาวเคราะห์น้อยเฉียดโลกปีหน้า คาดกลับมาชนโลกปี 2020

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ท

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งสหรัฐฯ หรือนาซ่า รายงานว่า นักดาราศาสตร์ได้ค้นพบดาวเคราะห์น้อยและวัตถุอวกาศรวมแล้วกว่า 47,000 ดวงที่มีโอกาสพุ่งเฉียดชั้นบรรยากาศโลก โดยหนึ่งในนั้นคือดาวเคราะห์น้อยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 46 เมตร ที่กำลังจ่อโคจรเฉียดโลกในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะพุ่งชนดาวเทียมที่โคจรอยู่รอบโลก และอาจโคจรกลับมาชนโลกอีกครั้งในปี 2020

โดยนาซ่าได้เปิดเผยว่า จากการปฏิบัติการโครงการสำรวจหาวัตถุขนาดเล็กที่มีวงโคจรใกล้โลกด้วยดาวเทียม Wide-field Infrared Survey Explorer หรือ WISE พบว่า ตอนนี้ในรัศมี 8 ล้านกิโลเมตรรอบ ๆ โลก มีดาวเคราะห์น้อยและวัตถุอวกาศรวมแล้วกว่า 47,000 ดวง ที่มีวงโคจรเฉียดโลก แต่ละดวงมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 100 เมตร ซึ่งใหญ่พอที่จะผ่านชั้นบรรยากาศของโลกเข้ามาสร้างความเสียหายมหาศาลต่อโลกได้ พร้อมกันนี้ นาซ่าได้ประเมินความเสี่ยงของประเทศที่อาจได้รับผลกระทบของเหตุการณ์วัตถุอวกาศพุ่งชนโลกด้วย ซึ่งพบว่า 10 ประเทศที่เสี่ยงต่อการพุ่งชนของวัตถุอวกาศมากที่สุด ได้แก่ จีน อินโดนีเซีย อินเดีย ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ฟิลิปปินส์ อิตาลี อังกฤษ บราซิล และไนจีเรีย ตามลำดับ

นอกจากนี้ นาซ่ายังเปิดเผยอีกด้วยว่า หนึ่งในจำนวนดาวเคราะห์อันตรายต่อโลกนี้ มีดาวเคราะห์น้อยชื่อ 2012 DA14 อยู่ด้วย มันเป็นดาวเคราะห์น้อยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 46 เมตร ที่มีวงโคจรใกล้โลกอย่างน่ากลัว โดยมีความเป็นไปได้ว่ามันจะพุ่งเฉียดดาวเทียมที่โคจรอยู่รอบโลกในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการระเบิดหรือความเสียหายของดาวเทียมหลาย ๆ ดวง และโอกาสที่มันจะพุ่งชนโลกนั้นอยู่ที่ 0.031 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นความเป็นไปได้ที่ไม่น่าเป็นห่วงมากนัก แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น นาซ่าก็ไม่อาจเพิกเฉยในการติดตามวิถีโคจรของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้หลังจากมันพุ่งเฉียดโลกในปี 2013 ได้ เพราะมีความเป็นไปได้ว่า มันอาจจะโคจรกลับมาพุ่งชนโลกอีกครั้งในปี 2020 ส่วนโอกาสที่มันจะพุ่งชนโลกจะอยู่ที่เท่าไรนั้น นาซ่ายังไม่สามารถคาดเดาได้ตอนนี้ คงต้องติดตามวิถีโคจรของมันต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับดาวเคราะห์น้อย 2012 DA14 เป็นดาวเคราะห์น้อยที่ถูกค้นพบเมื่อปี 2012 โดยหอดูดาวลาซากราของสเปน มันมีระยะการโคจรเป็น 3.5 เท่าของรัศมีโลก ซึ่งระดับการโคจรระดับนี้ ใกล้เคียงกับระดับการโคจรของดาวเทียมจำนวนมาก และมันจะเคลื่อนตัวผ่านทางตอนเหนือของโลกในช่วงเช้ามืดของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ปีหน้า แต่คนบนโลกจะไม่สามารถมองเห็นปรากฎการณ์นี้ได้ด้วยตาเปล่า ต้องใช้กล้องโทรทรรศน์สังเกตเท่านั้น

Credit By Kapook