• Home »
  • ShowSlideAll »
  • ทหารบุกช่วยชาวลาว หลังได้รับแจ้งว่าถูกกักขัง ทารุณ และใช้งานเยี่ยงทาส
ทหารบุกช่วยชาวลาว หลังได้รับแจ้งว่าถูกกักขัง ทารุณ  และใช้งานเยี่ยงทาส

ทหารบุกช่วยชาวลาว หลังได้รับแจ้งว่าถูกกักขัง ทารุณ และใช้งานเยี่ยงทาส

         เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 ส.ค.58 จ.อ.ไพฑูรย์ ศรีราชา กองบังคับกองร้อย ร. 29 พัน 3 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี พ.ต.ท.ยงลิต ศุภผล สว.กสส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.ท.ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล สว.สส.สภ.เมืองนครปฐม พ.ต.ท.ชัยณรงค์ ดีศิริ สว.สส.สภ.กำแพงแสน ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม และชุดสืบสวน สภ.กำแพงแสน นำตัวผู้ต้องหาต่างด้าวชาวลาว 2 คนที่เจ้าหน้าที่จุดตรวจหน้าสภ.กำแพงแสน ควบคุมตัวไว้ได้เป็นชายอายุ 25 ปี และอายุ 22 ปี ไปตรวจค้น ที่ยุพาฟาร์ม ซึ่งเป็นฟาร์มเลี้ยงหมูและไก่ขนาดใหญ่ เนื้อที่กว่า 20 ไร่ ตั้งอยู่เลขที่ 140 หมู่ 9 ต.มาบแค อ.เมืองนครปฐม

         เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบว่าฟาร์มแห่งนี้มีกำแพงรั้วสูงล้อมรอบ อยู่ในเนื้อที่ 20 ไร่ ภายในแบ่งเป็นโรงเลี้ยงกว่า 10 โรง มีหมูเป็นพันตัว และไก่นับหมื่นตัว มีโรงผสมอาหารขนาดใหญ่และโรงเก็บรำ ข้าวโพดแห้ง เจ้าหน้าที่ได้หลอกล่อคนงานไทยที่อยู่ภายในให้เปิดประตูจากนั้นก็กรูกันเข้าไปภายใน โดยมีผู้ต้องหาต่างด้าวชาวลาว นำพาเข้าไปยังบ้านพักคนงาน ซึ่งอยู่บริเวณตรงกลางฟาร์มมีโรงเลี้ยงหมูและไก่ล้อมรอบอยู่ เมื่อเข้าไปถึงบ้านพักคนงาน เจ้าหน้าที่ถึงกับอึ้ง พบบ้านพักคนงานซึ่งเป็นอาคารชั้นเดียวหลังคามุงกระเบื้อง สร้างในลักษณะเป็นโรงเรือนยาวมีร่วม 20 ห้อง รอบบริเวณโรงเรือนมีลูกกรงเหล็กล้อมรอบ มีประตูเป็นกรงเหล็กอยู่ด้านหน้า ถูกคล้องกุญแจปิดอยู่ จึงทำลายลูกกุญแจและบุกเข้าตรวจค้นภายใน แต่ยังมีกรงเหล็กล้อมไว้อีก ทั้งทำหลังคาปิด ให้ดูเหมือนว่าเป็นโรงเรือนมาตรฐาน

        ทั้งนี้ ห้องพักคนงานซึ่งถูกแบ่งกั้นเป็นห้อง แต่ละห้องมีขนาด 3 คูณ 4 เมตร มีเสื่อปูและมุ้งกางอยู่ พบคนงานชาวลาวเป็นชาย อายุประมาณ 17-25 ปี นอนระเกะระกะอยู่ภายในห้องแต่ละห้อง จำนวน 12 คน ซึ่งในห้องมีกลิ่นเหม็น ไม่มีส้วมและห้องอาบน้ำ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวออกมา ทั้งหมดไม่มีอาการตกใจแต่อย่างใด กลับแสดงความดีใจเมื่อเห็นว่าเป็นตำรวจและทหาร

         นายสมใจ อายุ 20 ปี หนึ่งในชาวลาวที่ถูกช่วยเหลือออกมา เปิดเผยว่า ทุกคนที่ถูกควบคุมตัวอยู่นี้เป็นชาวลาว เข้ามาอย่างผิดกฎหมายทางด้านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี โดยมีนายหน้าชาวลาวเป็นผู้ชักชวนให้มาทำงาน ต้องเสียค่าหัวรายละ 5 พันบาท โดยมีรถบรรทุกจากฟาร์มไปรอรับ จากนั้นมุ่งหน้ามาที่ฟาร์มเลี้ยงหมูเลี้ยงไก่แห่งนี้ โดยเจ้าของตกลงว่าจะให้เงินเดือน เดือนละ 7 พันบาท ในเดือนแรกที่มาทำงานก็ไม่ได้อยู่ในบ้านพักที่มีกรงขังแบบนี้ แต่อยู่บ้านพักซึ่งไม่มีกรงภายในฟาร์ม แต่พอครบเดือนแล้วจะไปเบิกเงินเพื่อส่งกลับบ้าน ปรากฏว่าเจ้าของไม่ให้เบิก แถมกลับพาพวกตนมาอยู่ในห้องพักที่เหมือนกรงขัง โดยมีชายฉกรรจ์ เหมือนการ์ด คอยดูแลควบคุมพวกตนอีกชั้นหนึ่ง เพราะกลัวจะหลบหนี

         ชายชาวลาว เล่าอีกว่า ถึงวันนี้ 3 เดือนกว่าแล้วที่มาทำงานที่นี่ แต่ยังไม่สามารถเบิกเงินได้แถมยังถูกทารุณ หากใครไม่สบายก็จะหาว่าแกล้ง ถูกเตะ ถูกตบ บางครั้งถึงกับถูกตีด้วยไม้จนเป็นแผลแตก พร้อมกับเปิดรอยแผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูศีรษะที่เป็นแผลแตก ในตอนเช้า 07.00 น. ก็ต้องตื่นเพื่อทำงาน โดยจะมีคนเอาข้าวมาให้ แล้วคอยควบคุม ตอนกลางวันและเย็นก็จะมีคนเอาข้าวมาให้ กินกันตามมีตามเกิด จากนั้นถูกต้อนเข้าห้องพัก และปิดกรงด้านหน้าไม่ให้ออก ภายในห้องหากใครจะขับถ่าย ก็ให้ถ่ายใส่ถุง แล้วนำออกมาทิ้งในตอนเช้า หลังจากเปิดให้ออกไปทำงาน อยู่เหมือนนักโทษ ไม่รู้จะหนีอย่างไร ทั้งยังกลัวถูกซ้อม เพราะมีคนเคยหนี แต่ถูกซ้อมจนน่วมเลยไม่มีใครกล้าหนีอีก

         ขณะเดียวกัน ที่หน้าบ้านพักภายในฟาร์ม เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้ควบคุมตัว นายไชยเดช โสนุช อายุ 55 ปี เจ้าของฟาร์ม โดยนายไชยเดช เจ้าของฟาร์มนั้นปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผจก.ธนาคารแห่งหนึ่ง สาขานครปฐม ซึ่งโวยวายเมื่อถูกตำรวจควบคุมตัว พร้อมกับบอกว่าไม่ได้ทำร้าย หรือกักขังคนงานชาวลาวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจึงนำตัวชาวลาวทั้งหมดมาชี้ตัว ซึ่งชาวลาวทั้งหมดที่ถูกควบคุมตัวนั้นต่างชี้ตัวนายไชยเดช ว่าเป็นคนลงมือทำร้ายพวกตนด้วยตนเอง บางครั้งก็ชักปืนออกมาขู่ และจะเป็นคนสั่งการให้ลูกน้องร่วมทำร้ายด้วย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

         ทางด้าน จ.อ.ไพฑูรย์ ศรีราชา ผู้บังคับกองร้อย ร. 29 พัน 3 ค่ายสุรสีห์กาญจนบุรี เผยว่าเมื่อช่วง 22.00 น. ของวันที่ 21 ส.ค.58 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่หน้า สภ.กำแพงแสน ขณะที่ตั้งด่านอยู่นั้น ได้ควบคุมตัวชายชาวลาว ที่เดินหลบหนีเลี่ยงด่านตรวจ ในตัวไม่มีเอกสารใดๆ จึงควบคุมตัวนำมาสอบสวนที่ สภ.กำแพงแสน ซึ่งมีทหารอยู่ด้วย เมื่อสอบถามทั้ง 2 บอกว่าทำงานอยู่ที่ฟาร์มเป็ด ซึ่งอยู่ห่างจากฟาร์มหมูฟาร์มไก่ ยุพาฟาร์ม เพียงแค่ 100 เมตร โดยทั้ง 2 เคยไปเยี่ยมเพื่อนคนงานชาวลาวด้วยกันที่ทำงานอยู่ในยุพาฟาร์ม และเพื่อนได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ถูกควบคุมตัวเหมือนนักโทษ แถมถูกขังอยู่ในกรงขัง ขอให้พวกตนหากพบเจอตำรวจให้ขอความช่วยเหลือให้มาช่วยด้วย

         จากนั้น จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาฝ่ายทหารทราบ ส่วนตำรวจก็รายงานให้ พล.ต.ต.พจน์ บุญมาภาคย์ ผบก.ภ.นครปฐมทราบเช่นกัน ก่อนจะมีคำสั่งให้บูรณาการเข้าไปตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ เมื่อเข้าไปตรวจก็พบสภาพตามที่คนงานชาวลาวทั้ง 2 เล่าให้ฟัง จ.อ.ไพฑูรย์ยังเผยด้วยว่า เรื่องแบบนี้ตนเพิ่งจะเคยเห็น ซึ่งในยุคสมัยนี้มันไม่น่าจะมีอยู่แล้ว

         “นี่มันคุกชัดๆ และเข้าข่ายการค้ามนุษย์ กักขัง หน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย และผู้ที่กระทำก็เป็นคนที่มีความน่าเชื่อถือ ไม่น่าที่จะทำเช่นนี้ ในส่วนข้อกล่าวหานั้นได้ดำเนินคดีกับชาวลาวข้อหาหลบหนีเข้าเมือง ส่วนนายไชยเดช เจ้าของฟาร์ม ในเบื้องต้นแจ้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย ซึ่งอาจจะพ่วงเรื่องค้ามนุษย์เข้าไปด้วย แต่ทั้งหมดต้องรอการสอบสวนให้ชัดเจนก่อนจะตั้งข้อกล่าวหาเพิ่ม” จ.อ.ไพฑูรย์ กล่าว

         ทางด้าน พล.ต.ต.พจน์ บุญมาภาคย์ ผบก.ภ.นครปฐม หลังได้รับรายงานว่ามีการกักขังชาวลาวในฟาร์มหมู ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สภ.ออกสำรวจฟาร์มต่างๆ ที่อยู่ในเขต จ.นครปฐม ว่ามีคนงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาทำงานหรือไม่ และมีการกักขังเหมือนกับที่ยุพาฟาร์มหรือไม่ หากมีให้จับกุมดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด และให้จัดทำประวัติเจ้าของฟาร์มอย่างละเอียดทุกแห่ง โดยให้ดำเนินการตั้งแต่ตอนนี้เลย ไม่ต้องรอ.

 

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ  :  ไทยรัฐ

แบ่งปันข่าวสาร Like & Share ให้ด้วยนะค่ะ