ช็อก สภาพหมีขั้วโลกผอมโกรกสุดเวทนา

ช็อก สภาพหมีขั้วโลกผอมโกรกสุดเวทนา

ข่าวรอบโลก : ช็อก สภาพหมีขั้วโลกผอมโกรกสุดเวทนา ขัดข้อมูลประชากรหมียังคงที่และสมบูรณ์
ช่างภาพเผยสภาพหมีขั้วโลกสุดเวทนา ผอมโกรกเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ติงข้อมูลจำนวนหมีขั้วโลกยังคงที่ไม่น่าเชื่อถือ ภาวะโลกร้อนส่งผลกระทบมากกว่าที่คิด วอนผู้คนร่วมมือกันแก้ปัญหาอย่างจริงจัง

       เมื่อพูดถึงหมีขั้วโลก หลายคนคงนึกถึงหมีสีขาวตัวอ้วนใหญ่ ดูแล้วทั้งน่ารักและน่าเกรงขาม นั่นเป็นภาพที่เรามักได้เห็นจนชินตาจากสารคดีและภาพถ่ายสัตว์โปรโมทการท่องเที่ยวเยือนถิ่นหมีขาว แต่ภาพหมีผอมโกรกตัวนี้ เป็นสิ่งยืนยันได้อย่างดีว่า ความเป็นจริงแตกต่างจากสิ่งที่ได้เห็นกันมา

       เคอร์สติน แลงเกนเบอร์เกอร์ ช่างภาพสัตว์ป่า โพสต์ภาพนี้ในเฟซบุ๊ก Kerstin Langenberger Photography ของเธอ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2558 พร้อมเล่าสิ่งที่เธอได้เห็นมากับตาตัวเอง จากการเดินทางไปเก็บภาพหมีขั้วโลกที่สฟาลบาร์ หมู่เกาะของนอร์เวย์ในมหาสมุทรอาร์กติก

       เคอร์สติน เล่าว่า นักวิทยาศาสตร์บางรายระบุว่าสฟาลบาร์เป็นสถานที่ที่มีหมีขั้วโลกมากและอุดมสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นในสัมผัสแรก แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เธอได้รู้ว่า อุณหภูมิในหน้าร้อนของที่นี่อบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แผ่นน้ำแข็งหดหายเป็น 10-100 เมตรในทุก ๆ ปี และแน่นอนว่าเธอได้พบเห็นหมีที่อ้วนท้วนสมบูรณ์ที่นี่ แต่ก็พบหมีขั้วโลกที่ผอมและหิวโซด้วยไม่ต่างกัน พวกมันเดินอยู่บนฝั่ง พยายามล่าอาหารซึ่งหาได้ยากเหลือเกิน

        เธอได้พบว่าหมีทีเห็นว่าอ้วนท้วนส่วนใหญ่นั้นจะเป็นเพศผู้ ซึ่งใช้เวลาทั้งปีอย่บนผืนน้ำแข็งที่เอื้อเป็นแหล่งหาอาหาร ขณะที่หมีตัวเมียจะต้องขึ้นฝั่งเพื่อคลอดลูก แต่ยิ่งแผ่นน้ำแข็งที่เคลื่อนตัวไปทางเหนือมากขึ้นทุก ๆ ปี ทำให้แม่หมีต้องติดอยู่บนฝั่งที่ยากต่อการหาอาหารยาวนานขึ้น น้อยครั้งนักที่จะได้เห็นแม่หมีที่แข็งแรงและลูกน้อยที่อ้วนพี อย่างเช่นหมีขั้วโลกในภาพนี้ก็ผอมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก บาดเจ็บที่ขาหน้า อันอาจเกิดจากการพยายามว่าวอลรัสตอนที่ตัวเองติดอยู่บนฝั่ง

        เคอร์สตินตั้งคำถามว่า การที่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า หมีขั้วโลกที่สฟาลบาร์มีจำนวนคงที่และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นนั้น จะเป็นความจริงได้อย่างไร ในเมื่อหมีเพศเมียล้วนผอมโซติดอยู่บนฝั่ง ไม่ต่างจากลูก ๆ ของมัน เธอบอกว่าแม้ตนไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์หรือสติถิใด ๆ แต่ก็มีสองตาที่ทำให้เห็นความจริงด้วยตัวเอง และมีความคิดที่จะพิจารณาหาข้อสรุปนี้ได้

         ช่างภาพรายนี้ทิ้งท้ายไว้ว่า “ภาวะอากาศแปรปรวนส่งผลกระทบมากเหลือเกินที่ขั้วโลกเหนือ และมันก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องสร้างความเปลี่ยนแปลง มาลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อสิ่งนี้กันเถอะ เราอาจช่วยชีวิตหมีขั้วโลกที่นี่ไม่ได้ แต่อย่างน้อย ๆ ทุก ๆ การกระทำทีเกิดขึ้นก้จะช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงไปสู่ทิศทางที่ถูกต้อง เราแค่ต้องเริ่มต้นตอนนี้และทำต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง”

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Kerstin Langenberger Photography
Kapook.com

แบ่งปันข่าวสาร Like & Share ให้ด้วยนะค่ะ