• Home »
  • ข่าวทั่วไป »
  • ชมรมนักธุรกิจฯ ออกแถลงการณ์ ฉ.7 ล่ารายชื่อยื่นถอดถอน310ส.ส.จี้ขอโทษประชาชน

ชมรมนักธุรกิจฯ ออกแถลงการณ์ ฉ.7 ล่ารายชื่อยื่นถอดถอน310ส.ส.จี้ขอโทษประชาชน

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ท

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ท

 

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2556 นายพรศักดิ์ ลิ้มบุญยะประเสริฐ เลขาธิการชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย สีลมสีเขียว เปิดเผย ว่าจะเดินหน้าจัดกิจกรรมรณรงค์เป่านกหวีด เพื่อแสดงสัญลักษณ์คัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมต่อไปจนกว่ารัฐบาล และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 310 ราย แสดงความจริงใจด้วยการเริ่มต้นออกมาขอโทษประชาชน และต้องยอมรับว่าสิ่งที่ได้กระทำไปเป็นสิ่งที่ผิดพลาด

         ทั้งนี้ ชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตยจึงออกแถลงการณ์ฉบับที่ 7 เพื่อแสดงจุดยืนใน 3 แนวทาง คือ

         1.ชมรมฯ จะร่วมกับประชาชนที่รักชาติตามจำนวนที่กำหนด แสดงตนเป็นผู้ริเริ่มรวบรวมรายชื่อประชาชนผู้มีสิทธิเข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอน ส.ส.จำนวน 310 คนที่ผ่านวาระ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะไม่มีการนำ พ.ร.บ.ฉบับนี้ออกมาพิจารณาอีกเมื่อวุฒิสภาส่งเรื่องกลับมายังสภาผู้แทนราษฎร เพราะสัตยาบันของหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะไม่มีการนำร่างฯ ดังกล่าวมาพิจารณาอีก เพราะเราไม่ไว้วางใจพฤติกรรมของบุคคลและพรรคการเมืองเหล่านั้น

         2.รัฐบาลจะต้องไม่ออกพระราชกำหนด ที่มีเนื้อหาทำนอง พ.ร.บ.ฉบับนิรโทษฯ คนโกงชาติ และขอให้ประชาชนที่รักชาติทุกหมู่เหล่าร่วมกันจับตาพฤติกรรมของรัฐบาล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา ให้ทำหน้าที่ตามหลักนิติธรรมและผลประโยชน์ของประเทศชาติ โดยให้ออกมาร่วมกันคัดค้านอย่างถึงที่สุดหากมีกรณีเช่นกล่าวเกิดขึ้น

         3.เป็นที่แน่ชัดว่า ประเทศไทยได้สูญเสียดินแดนบางส่วนในกรณีคดีพระวิหารแล้ว การที่รัฐสภาได้เร่งผ่านวาระแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ที่รัฐบาลสามารถทำสัญญากับต่างชาติโดยไม่ต้องแจ้งแก่สภาฯ เพื่อปกปิดเนื้อหาแห่งข้อตกลงมิให้ประชาชนรู้ โดยอ้างว่าทำให้การเจรจารวดเร็วขึ้นนั้น จะมีผลให้ประเทศไทยต้องรับภาระผูกพันในข้อตกลง อันอาจทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียอธิปไตยหลายๆ ด้านในอนาคตได้นั้น อาจเป็นการปูทางให้นำไปสู่การทุจริต คอรัปชั่น ขายชาติ ขายแผ่นดินได้ และขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ชมรมฯ จึงใคร่ขอให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทุกท่านพิจารณาถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ และหลักนิติธรรมเป็นที่ตั้งในกรณีดังกล่าว

Credit by Mthai

แบ่งปันข่าวสาร Like & Share ให้ด้วยนะค่ะ