ข่มขืนฆ่าเจ้าของร้านเครื่องสำอางหมกคอนโดฯ

ฆ่าเจ้าของร้านเครื่องสำอางหมกคอนโด

ฆ่าเจ้าของร้านเครื่องสำอางหมกคอนโด

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. พ.ต.ท.จักรวาล แก่นเรณู พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายในห้องชุดเลขที่ 184/6 ชั้นล่างอาคาร 2/2 เมโทรพาร์คคอนโดมิเนียม ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สุนทร โตรอด รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ธนกฤต ไชยจารุวุฒิ ผกก.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ท.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ พ.ต.ท.ปัญญา กุลไทย สว.สส. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นห้องชุดขนาด 42 ตารางเมตร บริเวณประตูทางเข้าห้องถูกปิดล็อกจากด้านในแต่ประตูกระจกบานเลื่อนด้านหลังติดสระว่ายน้ำสามารถเปิดเข้าออกได้ทำให้มองเห็นร่องรอยการต่อสู้และคราบเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วพื้นยาวไปถึงบริเวณหน้าห้องนอน เมื่อเจ้าหน้าที่เดินเข้าไปตรวจสอบในห้องนอนพบศพหญิงสาวถูกฆ่าเปลือยมีผ้าห่มสีเทาคลุมร่างกายอยู่บนเตียง ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.นวรัตน์ หรือฝ้าง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี มีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่ราวนมขวา ต้นคอซ้าย หัวไหล่ขวา และสะบักหลัง รวม 7 แผล ที่อวัยวะเพศพบคราบอสุจิแห้งกรังแพทย์สันนิษฐานเสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 48 ชั่วโมง

จากการสอบสวน น.ส.รุ่งนภา พานิช อายุ 41 ปี ลูกจ้างของผู้ตายซึ่งพบศพเป็นคนแรก ให้การว่า เป็นลูกจ้างทำงานที่ร้านขายเครื่องสำอางและคอนแทคเลนส์ของผู้ตายในห้างเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์สาขานนทบุรี ก่อนเกิดเหตุไม่สามารถติดต่อกับผู้ตายได้ โทรศัพท์มาหาก็ไม่ยอมรับสายจึงเดินทางมาหาที่ห้อง พบประตูด้านหน้าถูกปิดล็อกแต่ภายในเปิดแอร์ทิ้งไว้เย็นฉ่ำ ประกอบกับเมื่อก้มมองลอดช่องประตูเข้าไปเห็นคราบเลือดเปื้อนพื้นเต็มไปหมด คาดว่าน่าจะเกิดเหตุร้ายจึงเดินไปบอก รปภ.ของโครงการให้ช่วยประสานช่างเข้ามาตรวจสอบปรากฎว่าประตูบานเลื่อนด้านหลังไม่ได้ล็อกเมื่อลองเดินฝ่ากองเลือดเข้าไปดูในห้องนอนพบเจ้านายกลายเป็นศพไปแล้ว จึงรีบแจ้งให้ตำรวจรุดเดินทางมายังที่เกิดเหตุ

ต่อมานายนิกร องค์วุฒิธรรม อายุ 45 ปี แฟนของผู้ตาย ได้เดินทางมาดูศพพร้อมให้การว่า คบกันมานาน 5 ปีแล้ว ปกติผู้ตายจะพักอยู่ที่ห้องเพียงลำพังส่วนตนจะไปมาหาสู่นานๆ ครั้ง ล่าสุดเพิ่งแวะมาหาเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมาก็ยังไม่มีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเหตุร้าย แต่ก่อนหน้านี้ผู้ตายมักบ่นให้ฟังว่าเวลากลับจากขายของมาถึงที่ห้องจะพบว่าประตูกระจกบานเลื่อนด้านหลังถูกปลดล็อกคล้ายมีคนบุกรุกเข้ามาในช่วงกลางวัน ทีแรกตนเชื่อว่าอาจเป็นเพราะผู้ตายลืมล็อกประตูเอง แต่เพื่อความสบายใจของผู้ตายจึงไปหาซื้อเครื่องซ๊อตไฟฟ้าและเครื่องเซ็นเซอร์ส่งสัญญาณเสียงมาวางไว้ที่ประตูด้านหลัง ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุสลดขึ้นจนได้

ด้าน พ.ต.อ.สุนทร กล่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาหลักฐานเกี่ยวกับกล้องวงจรปิดในโครงการและเสาะหาพยานแวดล้อมให้ได้มากที่สุด โดยขณะนี้พบพยานปากสำคัญรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า ได้ยินเสียงชายหญิงทะเลาะกันดังออกมาจากห้องที่เกิดเหตุเมื่อช่วงเที่ยงคืนวันที่ 17 มิ.ย. สอดคล้องกับระยะเวลาการเสียชีวิตของผู้ตาย แต่พยานไม่ได้เอะใจคิดว่าสามีภรรยาทะเลาะกันเลยไม่ได้แจ้ง รปภ.ให้มาระงับเหตุจนกระทั่งมีผู้มาพบศพ อย่างไรก็ตามขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันทำงานอีกสักระยะเชื่อว่าจะติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน

 

Credit:  เดลินิวส์

แบ่งปันข่าวสาร Like & Share ให้ด้วยนะค่ะ